กองปราบฯ คุมตัว “น.ส.แอม”มาสอบปากคำคดีวางยาพิษ เผยผู้ต้องหายังยังให้การปฏิเสธ ไม่ยอมพูดชี้แจงอะไร ผงะ!!!เหยื่อตายปริศนาพุ่งเป็น 10 ศพแล้ว ล่าสุด"บิ๊กโจ๊ก"ได้หลักฐานเด็ดมีผู้รอดชีวิตไปกินข้าวแล้วอาเจียนจนสลบ เตรียมขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม พุ่งเป้าต้องการล้างหนี้ และประสงค์เอาทรัพย์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว

25 เม.ย.66 ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองปราบควบคุมตัว นางแอม ผู้ต้องหาก่อเหตุมอมยาพิษฆาตกรรม นางสาวก้อย อายุ 32 ปี ที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ขณะที่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบคดี และให้มีการขยายผลไปคดีที่เกี่ยวเนื่องกับในอดีตด้วย โดยพล.ต.อ.สุรเซษฐ์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นเกิดเหตุ 5 จังหวัด ทั้งกาญจนบุรี นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี และอุดรธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจคุมตัว นางแอม ส่งกองบังคับการปราบปราม เพื่อทำบันทึกการจับกุมและพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติอาชญากรรม และจะนำตัวเข้าควบคุมไว้ที่กองปราบปรามก่อน เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ ( 26 เม.ย.) ระหว่างการควบคุมตัวสื่อมวลชนพยายามสอบถามผู้ก่อเหตุว่ากระทำผิดจริงหรือไม่ เจ้าตัวร้องไห้แต่ไม่ตอบคำถาม มีเพียงทนายความที่ตอบแทนว่าผู้ต้องหาขอใช้สิทธิ์ไม่ตอบคำถามและต่อสู้ทางกฎหมายเท่านั้น

ภายหลังประชุมนาน 2 ชั่วโมง ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาระบุว่า ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และไม่พูดไม่ชี้แจงอะไร ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำญาติ เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 10 รายแล้ว และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 ราย โดยเจ้าตัวได้ไปทานข้าวกับนางสาวแอมและปรากฏว่ามีอาการอาเจียน ก่อนที่จะสลบไป แต่โชคดีที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เป็นพยานสำคัญในคดีนี้ที่จะต้องเรียกมาสอบปากคำด้วย

ส่วนหลักฐานที่จะเชื่อมโยงได้นั่นก็คือศพที่มีการผ่าพิสูจน์แล้ว โดยมีแพทย์ยืนยัน ซึ่งจะสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่มเติม และอายัดตัวนางสาวแอมได้ เบื้องต้นมี 3 ศพ อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ส่วนข้อมูลของชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่ง อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการใช้โทรศัพท์และเส้นทางการเงิน รวมถึงความเชื่อมโยงของอดีตสามีที่เป็นตำรวจด้วย

ส่วนคดีส่วนใหญ่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว มีอุปสรรคหรือไม่นั้น รองผบ.ตร. กล่าวว่า ยังคงยึดพฤติกรรมแวดล้อม เพราะพฤติกรรมมีลักษณะแบบเดียวกัน คือ ไปกินข้าวกินน้ำแล้วปรากฏว่าเสียชีวิต อีกทั้งบุคคลที่เสียชีวิตทั้งหมด เป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงใกล้ชิดและอยู่ในแวดวงของตำรวจ

ทั้งนี้ สาเหตุของการฆาตกรรมยังคงมุ่งไปที่ประเด็นต้องการล้างหนี้ และประสงค์เอาทรัพย์ โดยเจ้าตัวพูดคุยได้เหมือนคนปกติทั่วไป เบื้องต้นยังไม่พบอาการทางจิต เพราะยังรู้การกระทำของตัวเอง ซึ่งตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว และเชื่อว่าศาลจะอนุญาติตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน เพราะพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องปกติ โดยหลังจากนี้จะมีการนัดประชุมหารือในคดีนี้อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 28 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น.