‘แม่แตงโม’ยื่นฟ้องคดี
เรียกเงินเยียวยา179ล.
จำเลยในเรือสปีดโบ๊ท
‘แซน’ลั่นขอสู้ทุกกรณี
“แม่แตงโม” ยื่นฟ้องเรียกเงินเยียวยา จำเลยในเรือสปีดโบ๊ทเพิ่มเป็น 179 ล้านบาท หลังจากพบสัญญาจ้าง อ้าง “แตงโม”มีรายได้เฉลี่ยปีละ 10 กว่าล้านบาท ขณะที่ “แซน-วิศาพัช”ลั่นไม่ยอม พร้อมสู้ในทุกกรณี
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม อดีตดาราสาวชื่อดัง พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมาย เดินทางมายังศาลตามนัดพร้อม ให้ฝ่ายโจทก์คือ นางภนิดา และฝ่ายจำเลยทั้ง 4 คน คือ น.ส.วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือเอ็ม ซึ่งให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี นำพยานหลักฐานมายื่น เพื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล หลังจากที่นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต กลับคำให้การรับสารภาพในชั้นศาลไปแล้วก่อนหน้านี้
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งให้อัยการเป็นโจทก์ แยกฟ้องจำเลยที่ 3-6 เป็นคดีใหม่ โดยใช้ข้อหาเดิมที่เป็นเหตุให้ น.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา หรือแตงโม ตกน้ำเสียชีวิต ซึ่งนางภนิดา ยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวอยู่ หลังจากแยกคดีออกมา ทางอัยการ จึงใช้ข้อหาเดิมและวัตถุพยานเดิม ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 4 ทำให้นางภนิดา ต้องเดินทางมาศาลในฐานะโจทก์ร่วมในคดีใหม่ และยังตรวจพบเอกสารและสัญญาว่าจ้างงานของน้องแตงโม ทั้งในและต่างประเทศ เกี่ยวกับรายได้จากการโฆษณา ถ่ายแบบ พรีเซ็นเตอร์สินค้า และงานแสดง เป็นเหตุผลสำคัญให้นางภนิดา ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายและค่าเยียวยา ในฐานะผู้จัดการมรดก เป็นเงินประมาณ 179 ล้านบาท ซึ่งคำนวณจากรายได้ต่อปีในช่วงที่น้องแตงโม ยังมีชีวิตอยู่
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่ น.ส.วิศาพัช จะฟ้องกลับนางภนิดา นั้น ตนมองว่าการที่จำเลยนำคดีมาฟ้องหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อโจทก์ร่วมในอนาคตเป็นการไม่สมควร เพราะเหตุผลสำคัญคือการสำนึกผิดแสดงเจตนาบริสุทธิ์ใจในการช่วยเหลือเยียวยา การเป็นปฏิปักษ์ต่อโจทก์ไม่เป็นผลดีต่อรูปคดี เพราะคดีนี้นางภนิดา ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าน้องแตงโม ตกเรือเพราะสาเหตุใด แต่มีหลักฐานสำคัญที่จะทำให้ศาลเชื่อว่า 1 ใน 5 คนบนเรือมีส่วนเกี่ยวข้อง และสืบพยานในอนาคตได้ เนื่องจากมีพยานผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และเชี่ยวชาญด้านเทคนิคต่างๆ ทำให้ฝ่ายจำเลย 2 ใน 4 คน ติดต่อขอไกล่เกลี่ยกับนางภนิดา
ขณะที่นางภนิดา กล่าวว่า การฟ้องเรียกค่าชดเชยจากจำเลยทั้ง 4 ได้ยื่นข้อเรียกร้องเป็นเงิน 179 ล้านบาท โดยคำนวณจากรายได้ของน้องแตงโม ที่ไปพบสัญญาว่าจ้างงานต่างๆ ตกปีละ 10 กว่าล้านบาท ซึ่งเมื่อนำรายได้มาคำนวณใหม่ จึงรู้ว่าลูกสาวมีรายได้เยอะมาก ส่วนกรณีที่แซน ฟ้องกลับ รู้สึกตลก เพราะไม่สมควรทำ ฝ่ายจำเลยต้องเคลียร์คดีตัวเองเสียก่อน แต่กลับมาฟ้องกลับโจทก์ ซึ่งตนไม่รู้สึกหนักใจอะไร
ด้านนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน-วิศาพัช กล่าวว่า ตามที่ศาลมีคำสั่งให้อัยการแยกฟ้องคดีมาจากจำเลยให้การปฏิเสธ วันเดียวกันนี้เป็นการนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ และตรวจคำสั่งฟ้องของจำเลยทั้ง 4 ซึ่งจำเลยทุกคนยืนยันขอสู้คดี ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีฝ่ายจำเลย 2 ใน 4 คน ติดต่อไปยังฝ่ายโจทก์ขอไกล่เกลี่ยนั้น จากการสอบถามในกลุ่มจำเลยแล้ว ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน สำหรับเรื่องการเรียกร้องเงินเยียวยาสูงถึง 179 ล้านบาทนั้น โจทก์ต้องมีหลักฐานในการยื่นค่าไร้อุปการะต่อศาล ก็เป็นสิทธิ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ต่อศาล ในส่วนของลูกความตนไม่มีการพูดคุยกับโจทก์อีก ในเมื่อครั้งก่อนเรียกค่าเยียวยา 40 ล้านบาท ทางเรายังไม่คุยด้วยเลยเพราะเห็นว่าสูงเกินไป ถ้าครั้งนี้เรียก 179 ล้านบาท ก็ไม่รู้จะคุยอะไรด้วย และหากจะพูดคุยเจรจากัน ตัวเลขอาจจะเพิ่มกลายเป็น 4 หลักขึ้นไปอีก
ส่วน น.ส.วิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า จำเลยทั้ง 4 ได้พูดคุยกันคร่าวๆ ว่าทั้งหมดจะให้การปฏิเสธเหมือนเดิม ให้เป็นไปตามความจริง ส่วนปอ และโรเบิร์ต หลังจากให้การรับสารภาพไปในครั้งก่อนแล้ว ก็ยังคุยกันบ้างนิดหน่อย สำหรับเงินค่าเยียวยาที่นางภนิดา ยื่นฟ้องเรียกเป็นจำนวน 179 ล้านบาทนั้น ตนก็ไม่ขอเจรจาด้วย และอยากให้ทางนางภนิดา เตรียมตัวไว้เพราะตนก็ไม่ยอมในทุกกรณีเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี