ราคาผักในพื้นที่ภาคใต้ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ราคาผักปรับขึ้นโดยเฉพาะ ต้นหอมราคาพุ่ง กิโลกรัมละ 180 บาท แม่ค้าผัก บอก ผักในพื้นที่ไม่มีปลูกต้องสั่งผักจากแหล่งปลูกผักในภาคกลาง  ภายหลังหลายจังหวัดพื้นที่เพาะปลูก ฝนตก โดนพายุฤดูร้อนถล่ม สร้างความเสียหาย และในทุกปี เดือน เมษายน – พฤษภาคม ราคาผักจะปรับราคาขึ้น ทำให้ราคาผักที่สั่งมีราคาแพงขึ้น  ขณะที่มะนาวกิโลกรัมละ 180 บาท เหตุหลักมาจาก ราคาน้ำมันที่แพงมีผลกับค่าขนส่งทำให้ต้องปรับราคา

11 พฤษภาคม 2566 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ราคาผักหลายชนิดเริ่มปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากแหล่งปลูกผักในภาคกลาง หลายจังหวัดเกิดฝนตกจากสภาพอากาศและโดนพายุฤดูร้อนถล่มในพื้นที่เพาะปลูก  ส่งผลให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคใต้เริ่มลดน้อยลง และยังมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  หลังราคาน้ำมันยังคงมีราคาแพง  ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการขนส่ง ส่งผลโดยตรงกับค่าขนส่ง จึงต้องปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน

ส่วนราคาผักที่ปรับราคาขึ้นมา 2-3 วัน ประเภท ผักชี ขายกิโลกรัมละ 150 บาทจากเดิม 120 บาท  ต้นหอม180 บาท จากเดิม 120 บาท ผักกาดหอม 120 บาท จากเดิม 70 บาท มะนาวกิโลกรัมละ 180 บาท ก่อนหน้านี้กิโลกรัมละ 60-70 บาท  ซึ่งในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ทุกปีผักจะมีการปรับราคาแพงขึ้น เนื่องจากผักจะมีน้อยสาเหตุผักที่ปลูกไม่ชอบฝน ทำให้ผักปรับราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  ส่วนราคามะนาว ในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง หลังช่วงนี้พบว่าราคามะนาวเริ่มขยับสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากราคาก่อนหน้านี้กิโลกรัมละ 60-70 บาทรับขึ้นกิโลกรัมละ 180 บาท โดยพบว่าตอนนี้ราคาขายส่งมะนาวที่ตลาดกลาง ราชบุรี และตลาดสี่มุมเมืองแต่ละร้านเริ่มมีการปรับขึ้นราคาเช่นกัน

แม่ค้าขายในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง บอกว่า มีผักหลายชนิดที่ปรับราคาขึ้น สาเหตุเพราะแหล่งปลูกในภาคกลางมีฝนตกและบางพื้นที่เสียหายโดนพายุฤดูร้อนถล่ม  อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือค่าขนส่ง เพราะราคาน้ำมันแพง ทำให้พ่อค้าคนกลางต้องบวกค่าขนส่งขึ้นด้วย   ซึ่งขณะนี้ผักมีไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน เราสั่งซื้อมาน้อยเพราะต้องขายน้อยเหมือนกัน  แม้แต่ถั่วฝักยาวก็ยังปรับขึ้นราคาเช่นเดียวกันตอนนี้ขายอยู่กิโลกรัมละ 100 บาท ก่อนหน้านี้ กิโลกรัมละ 50 บาท ช่วงนี้ผักหลายอย่างขึ้นราคา แต่ลูกค้าที่มาซื้อก็ไม่ว่าอะไร เพราะต่างคนต่างเข้าใจ