รร.กทม. เปิดเรียนปี 66 สอนเสริมทักษะชีวิต-หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา-กิจกรรมรู้เท่าทันสื่อออนไลน์ พร้อมเข้มมาตรการป้องกันแพร่ระบาดโรคโควิด-ไข้หวัดใหญ่ ในโรงเรียน
นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวว่า โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 437 แห่งเปิดเรียนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 พร้อมกันในวันที่ 16 พฤษภาคม โดยจัดการเรียนการสอนในรูปแบบวิถีใหม่ (New Normal) เน้นการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพภายใต้มาตรการดูแลและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยในภาคเรียนที่ 1/2566 จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-Site คือ การมาเรียนที่โรงเรียนเป็นหลัก ควบคู่กับการสอนในรูปแบบ Online On-Air On Hand และ On School Line ในกรณีที่เกิดความเสี่ยงสูง หรือเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานศึกษา หรือชุมชนโดยรอบ พร้อมกันนี้ทุกโรงเรียนได้ตรวจสอบอาคารเรียน ห้องเรียน เครื่องเล่นเด็ก และวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน สภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียน ตลอดจนระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนให้มีความสะอาดเรียบร้อยและปลอดภัย ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน จัดจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ในบริเวณต่างๆ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ สำนักการศึกษาได้เน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนมุ่งเน้นจัดการสอนให้ครบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร โดยเนื้อหาจำเป็นตาม “ตัวชี้วัดต้องรู้” ต้องสอนให้ครบถ้วน ส่วน “ตัวชี้วัดควรรู้” สามารถบูรณาการหลายตัวชี้วัดเข้าด้วยกันได้ รวมถึงบูรณาการรายวิชาเสริมเข้ากับรายวิชาหลัก เช่น ทักษะชีวิตกับวิชาการงานอาชีพ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษากับวิชาสังคมศึกษาฯ กิจกรรมรู้เท่าทันสื่อออนไลน์กับวิชาวิทยาการคำนวณ เป็นต้น โดยนับเวลาเรียนร่วมกัน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะตามที่ตัวชี้วัดกำหนดและได้รับการพัฒนาตามวัตถุประสงค์ของรายวิชา/กิจกรรม/หลักสูตรนั้นๆ อย่างครบถ้วน มุ่งเน้นให้ครูเป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุน อำนวยความสะดวก และประสานกับนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อรองรับรูปแบบการสอนยุควิถีใหม่
สำหรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงเรียน ได้เน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคลกับนักเรียน บุคลากร
ทุกระดับ และผู้ปกครอง ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล เว้นระยะห่าง หากต้องเข้าในที่แออัด เฝ้าระวังสังเกตอาการ ตรวจ ATK เมื่อมีอาการทางเดินหายใจ ประสานผู้ปกครองให้เฝ้าระวัง
คัดกรองบุตรหลานก่อนพามาโรงเรียน หากพบมีไข้ ไอ จาม หรืออาการอื่นใด ให้หยุดเรียนเฝ้าดูอาการที่บ้าน หรือพบแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงรับเชื้อและมาแพร่กระจายเชื้อในโรงเรียน และให้แจ้งข้อมูลเจ็บป่วยของนักเรียนให้โรงเรียนทราบด้วย โดยโรงเรียนจะตรวจคัดกรองสุขภาพนักเรียนตามมาตรฐาน กรณีพบกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มก้อนจะประสานศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ ส่งต่อเข้ารับการรักษาตามสิทธิรักษา หากมีการติดเชื้อในสถานศึกษาให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมโดยไม่ปิดโรงเรียน รวมถึงให้บุคลากรและนักเรียนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามเกณฑ์ โดยเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้มีมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ในโรงเรียนสังกัด กทม.ในช่วงเปิดภาคเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กนักเรียนและการแพร่ระบาดลักษณะกลุ่มก้อนในสถานศึกษา โดยกำชับให้เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง พร้อมสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก เด็กนักเรียน และกลุ่มเสี่ยง 608 สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 พร้อมกันในวันเดียว เพื่อลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรค สามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยเลือกรับการฉีดที่สถานพยาบาลที่สะดวก หรือ walk in ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี