โจรพิการ 9 นิ้วตาเดียวแสบใช้มีดเคียวจี้ชิงทรัพย์ จยย.ก่อนไปขโมยเงินชาวบ้านอีกจุด สุดท้ายหนีไม่รอดถูกเจ้าของรถตามรวบตัวคาห้องเช่า ส่งตำรวจ สภ.เมืองพัทลุงดำเนินคดี

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 พ.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ห้องแถวปล่อยเช่าไม่มีเลขที่ใน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง หลังได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียหายตามจับตัวโจรจี้ชิงทรัพย์รถ จยย.ไว้ได้ที่เกิดเหตุพบคนร้ายถูกจับมัดมือไขว้หลังและมัดเท้านั่งอยู่ตรงพื้นหญ้าหน้าห้องเช่า ทราบชื่อนายอรรถดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เป็นชาวจังหวัดชลบุรี แต่มาทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่ จ.พัทลุง ตรวจสอบพบป่วยพิการตาซ้ายบอด นิ้วชี้ขวาด้วน มีกลิ่นเหล้าโชย อยู่ในอาการมึนเมา สอบถามเบื้องต้นไม่ยอมพูดคุยใดๆ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวขึ้นรถเพื่อนำไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพัทลุง

สอบถามนายบ่าว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี เจ้าของรถ จยย.เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ค.66 ที่ผ่านมาตนได้ไปทำธุระที่ร้านขนมจีนในพื้นที่ ม.1 ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง จู่ๆ นายอรรถดา ก็ได้ถือมีดเคียวแล้วเดินไปคร่อมที่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีชมพูของตนที่จอดอยู่หน้าร้านขนมจีน ก่อนจะง้างมีดเคียวชี้มาที่ตนและพูดว่า "มึงอย่าเข้ามานะ" แล้วก็ขับรถ จยย.ของตนออกไป จากนั้นตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง และได้ออกไปตามหานายอรรถดา ที่ห้องเช่าใกล้กับที่พักของตน เนื่องจากเมื่อประมาน 2 เดือนก่อนนี้นายอรรถดา ได้มาสมัครเป็นลูกจ้างของแม่ตนได้ประมาน 2 เดือนถือเป็นลูกจ้างของแม่ที่ทำงานที่เดียวกับตน และเคยขโมยเงินแม่ของตนจำนวน 1,000 บาท แต่เมื่อสอบถามกลับไม่ยอมรับจนถูกสั่งพักงานอยู่  

ช่วงจังหวะที่ตนมาตามหาที่ห้องเช่าแต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งตกดึกตนได้นั่งอยู่หน้าบ้านพัก ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องเช่านายอรรถดา ปรากฎว่านายอรรถดา ได้วนกลับเข้ามาที่ห้องเช่าอีกครั้งคล้ายจะเข้ามาเอาของอะไรสักอย่าง ตนจึงเรียกน้าให้ช่วยกันจับตัวนายอรรถดา ที่อยู่ในอาการมึนเมา พร้อมกับได้ตะโกนถามตนว่ามีอะไร ตนจึงเข้าไปสอบถามหารถ จยย.แต่ถูกปฏิเสธไม่รู้เรื่องใดๆ จากนั้นนายอรรถดา มีท่าทีจะวิ่งหนีและขัดขืนต่อสู้แต่หนีไม่รอด ถูกพี่ๆ น้าๆ ช่วยกันรวบตัวไว้ได้ ค้นในตัวไม่พบทรัพย์สินใดๆ และไม่ยอมบอกด้วยว่าเอารถ จยย.ที่ขโมยไปไว้ที่ไหน

ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง ปรากฎว่า มีผู้เสียหายอีกรายทราบชื่อนางสมฤดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี เดินทางมาแจ้งความเพิ่มว่านายอรรถดา คนนี้ได้เข้าไปที่บ้านในท้องที่ ม.1 ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 พ.ค.66 ขณะที่เข้าไปตนกำลังนั่งทำปลาหมึกอยู่หน้าบ้าน นายอรรถดา ได้มาถามหาลูกชายของตนว่า "เก่งอยู่บ้านมั้ย" เมื่อตนตอบว่าไม่อยู่ นายอรรถดา ถามหาเบอร์โทรของลูกชายตนจึงตอบไปว่าไม่มี แล้วตนก็ได้ทำปลาหมึกต่อและพบว่านายอรรถดา ได้กลับออกไป ก่อนจะพบว่ากระเป๋าเงินของตนที่วางอยู่ได้หายไป 

"ตอนแรกคิดว่าวางลืมไว้ตรงไหนจึงหาดูแต่ก็ไม่เจอ แต่เกิดเอะใจนึกได้ว่ามีนายอรรถดา ซึ่งเป็นคนนอกที่เข้าไปในบ้าน และคาดว่าช่วงจังหวะที่หันหลังนั่งทำปลาหมึกคงขโมยกระเป๋าตังค์ไปด้วย และช่วงใกล้ค่ำมีญาติโทรมาที่บอกว่าเจอกระเป๋าที่มีบัตรประชาชนของผม ตกอยู่ริมถนนไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร จึงรีบออกไปดูพบว่าเงินในกระเป๋าที่มีอยู่ 1,000 กว่าบาท พร้อมธนัตรเก่าๆ ที่สะสมไว้ได้หายไปหมด"

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพิ่มเติมแต่นายอรรถดา ที่มีอาการมึนเมาไม่ยอมพูดใดๆ จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะผลพบว่าเป็นสีม่วงจึงควบคุมตัวไว้และจะเร่งตรวจสอบหากล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีต่อไป - 003