บุกรวบแก๊งคอลฯ

อ้างขนส่งตุ๋นเหยื่อ

พัวพันคดีฟอกเงิน

สูญกว่า145ล้านบ.

ตำรวจไซเบอร์ รวบสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์“แก๊งตึกประตูดำ”องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อ้างพนักงานขนส่งมีพัสดุผิดกฎหมาย พัวพันคดีฟอกเงิน หลอกเหยื่อ โอนเงินให้ เสียหายกว่า 145ล้านบาท เตรียมเร่งขยายผลต่อไป

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท.สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 บช.สอท. พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 บช.สอท.จับกุมนายวรพรต(สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน จับกุมได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน กทม.

ทั้งนี้ เนื่องจากตำรวจ บช.สอท.ได้เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซนเตอร์“แก๊งตึกประตูดำ หน้าวัดตาด ปอยเปต” หลังจากแก๊งดังกล่าว ได้ออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง มีพัสดุผิดกฎหมายส่งจากต่างประเทศมาถึงผู้เสียหาย ซึ่งติดอยู่ที่กรมศุลกากร และพบว่าพัวพันกับการกระทำผิดฐานฟอกเงิน แล้วแจ้งให้เหยื่อโอนเงิน ซึ่งมีเหยื่อตกใจกลัวและหลงเชื่อ โอนเงินไปให้หลายราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 145 ล้านบาท

ต่อมาภายหลังเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลการกระทำดังกล่าวจึงเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของบัญชีม้า พนักงานโทรศัพท์ ล่ามแปลภาษา ผู้จัดหาพนักงานและบัญชีธนาคาร และหัวหน้าแก๊ง ผู้ที่ควบคุมดูแลพนักงานคอลเซ็นเตอร์ รวมกว่า 58 หมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาไปแล้วบางส่วน

สำหรับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งนับเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติรายนี้ มีชื่อแก๊งว่า “แก๊งตึกประตูดำ หน้าวัดตาด ปอยเปต” เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการสืบสวนติดตามระยะหนึ่ง จนทราบข้อมูลว่า นายวรพรต ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร และได้เข้าเป็นทหารเกณฑ์อยู่สังกัดกองพันทหารแห่งหนึ่งใน กทม.ทางชุดสืบสวน บก.สอท.1 บช.สอท.จึงประสานไปยังกองพันดังกล่าวต้นสังกัดของพลทหารรายนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารแห่งนี้ในการนำตัวผู้ต้องหา มาส่งให้ชุดสืบสวน ที่หน้ากองพัน ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับและจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 บช.สอท.รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ทำนุรัฐ กล่าวฝากไปยังพี่น้องประชาชน ว่าขอให้พึงระวังการหลอกลวงลักษณะดังกล่าว ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ และควรมีสติก่อนโอนเงินทุกครั้ง ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ และควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน“ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”ซึ่งการปฏิบัติการของ บช.สอท.ได้เร่งรัดในการปราบปรามการกระทำผิดดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยมีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม