วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ/ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิง ปิยาภรณ์ แก้วมณีโปรด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำคดีที่ สส.เต้ มงคลกิตติ์ แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท เมื่อ มิ.ย.65

หลังพบ พงส.บก.ป.แล้ว นายเดชา กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเรียกตนมาพบ ตามที่นายมงคลกิตติ์ ได้มาแจ้งความไว้ หาว่าตนไปหมิ่นประมาทข่มขู่เขาในการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีแตงโม ซึ่งทาง มงคลกิตติ์ กับตนต่างฝ่ายก็แจ้งความคนละคดี วันนี้มาพบพนักงานสอบสวนในคดีของเขา  แต่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาตน วันนี้เรียกมาสอบถามข้อเท็จจริง ดูว่ามีมูลหรือเปล่า ที่ไปกล่าวหาว่าเขาเป็นนักเลง ท้าชกคนไปทั่ว

ส่วนในคดีที่ตนแจ้งความดำเนินคดีเขา ทราบว่าขณะนี้ตำรวจได้สั่งฟ้องคดี สำนวนไปถึงอัยการแล้ว 29 พ.ค.นี้เวลา 09.00 น. พนักงานอัยการแขวงพระนครเหนือ จะพาผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ

ตนไม่ยอมความแน่นอน ขอให้ศาลตัดสินคดีไป กลัวว่าถ้าเคลียร์กันจบไปแล้ว ไม่อยากเห็นเขาจะไปกระทำกับคนอื่น ข่มขู่คนอื่นไปอีก ก่อนจะยกนิ้วชู ร้อง จุ๊ก..กรู ๆ ๆ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ป.ได้สอบถามนายเดชาตามหลักฐานที่นายมงคลกิตติ์ นำมามอบให้พนักงานสอบสวน ว่า

นาทีที่  3.07 “ทนายเดชา : ใครที่ได้รับความเสียหายจากนายมงคลกิตติ์ก็ติดต่อมา จะช่วยกันสหบาทาเต็มที่” 

โดยกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 และข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด  โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ  ชื่อเสียงฯ  และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 และ 392