26 พ.ค.66 ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.จุฬารัตน์ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี หญิงสาวชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เสียชีวิตปริศนาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (25 พ.ค.66) โดยมีรอยช้ำตามใบหน้า และลำตัว หลังจากมาเปิดห้องพักกับ นายประมวน (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี แฟนหนุ่ม และทอมหรือสาวหล่อที่เป็นหลานของแฟนหนุ่ม แต่แฟนหนุ่มกลับแจ้งแม่บ้านรีสอร์ตว่าแฟนสาวกินยาตาย ซึ่งขัดแย้งกับหลักฐานที่พบ แต่ขณะกู้ภัยฯ นำตัวฝ่ายหญิงส่ง รพ. แฟนหนุ่มได้หายตัวไป
หลังได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานยังรีสอร์ตที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามข้อมูลจากแม่บ้านที่รีสอร์ตด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบก็ลงพื้นที่หาเบาะแสเพื่อติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่า นายประมวน หลบหนีไปในท้องที่ อ.สตึก จึงได้ประสานตำรวจ สภ.สตึกร่วมติดตามจับกุม
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.สตึก ได้เข้าทำการจับกุมตัว นายประมวน ขณะหลบซ่อนตัวในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่ อ.สตึก พร้อมรถเก๋งที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี จากนั้นได้ควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.สตึก โดยจากการสอบถามเบื้องต้นนายประมวน ยอมรับสารภาพว่าได้ทำร้าย น.ส.จุฬารัตน์ แฟนสาวจริงโดยว่าสาเหตุที่ทำร้ายเพราะมีปากเสียงทะเลาะกัน เนื่องจากหึงหวงแฟนสาวกลัวจะไปมีชายอื่น จึงพลั้งมือทำร้ายแต่ไม่คิดว่าจะถึงกับเสียชีวิต ซึ่งจากทำบันทึกจับกุมที่ สภ.สตึก แล้วก็จะนำตัวนายประมวน มาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ เจ้าของคดี เพื่อสอบปากคำตามขั้นตอน
จากพฤติกรรมการก่อเหตุ และพยานหลักฐานที่พบก็เข้าข่าย ข้อหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" ซึ่งจากการสอบประวัติพบว่านายประมวน เคยถูกจับกุมคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดหลายครั้ง เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ล่าสุดก็ไปเกี่ยวกับยาเสพติดอีกถูกออกหมายจับในท้องที่ จ.ร้อยเอ็ด อยู่ระหว่างหนีหมายจับ
ด้าน น.ส.บรีส ที่ไปกับผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตด้วย ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ส่วนตัวสนิทกับผู้ตายไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย เพราะตนเป็นหลานของนายประมวน โดยก่อนเกิดเหตุน้าได้บังคับให้ตนขี่ จยย.ไปรับ น.ส.อ้อ ที่บ้าน บอกว่าอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับอ้อ โดยน้าบอกว่าถ้าไม่ไปรับตามที่บอกก็จะฆ่า ด้วยความกลัวตนจึงไปรับตามที่ถูกน้าบังคับ จากนั้นก็ไปเที่ยวกับตามปกติแล้วน้าก็มารับอ้อ ขึ้นรถเก๋งไปด้วย ซึ่งก็เห็นเขาทั้งคู่พูดคุยกันดีไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แต่ตอนที่พักอยู่รีสอร์ตพักอยู่คนละห้อง และตนเองก็ออกจากรีสอร์ตตั้งแต่เที่ยงขี่ จยย.กลับบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้ข่าวอีกทีว่าอ้อ เสียชีวิตก็ตกใจ แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของอ้อ
ขณะที่ น.ส.สมม้ง อายุ 55 ปี พี่สาวของนายประมวน บอกว่า น้องชายมีนิสัยใจร้อนขี้โมโห เคยมีภรรยาที่มีลูกด้วยกัน 1 คน แฟนที่คบหากัน 2 คน ส่วนอ้อ เป็นแฟนคนที่สี่ ด้วยนิสัยขี้โมโหของน้องชายก็จะทะเลาะตบตีภรรยาและแฟนทุกคน น.ส.ก็ทะเลาะกันบ่อย ส่วนใหญ่ก็จะระแวงไปเองกลัวว่าอ้อ จะไปมีชายคนอื่นอาจจะด้วยอายุที่ห่างกัน ส่วนตัวไม่เชื่อว่าอ้อ จะกินยาฆ่าตัวตาย ตามที่น้องชายบอกเพราะอ้อเป็นคนอัธยาศัยดี ก็คิดว่าน้องชายน่าจะทำร้ายอ้อ จนเสียชีวิตจริงในฐานะพี่สาวก็เป็นห่วงน้องแต่ในเมื่อน้องทำผิดก็ไม่เข้าข้างหรือปกป้อง ก็ให้รับกรรมในสิ่งที่ทำ ส่วนตัวก็เสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และตั้งใจจะไปกราบขอขมาศพของอ้อที่บ้าน.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี