‘ผบ.ตร.รับมีจริง‘ส่วยสติ๊กเกอร์’ ตื่นตั้ง‘ชุดฉก.’ปราบรถบรรทุกผิดกฎหมาย
31 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้าเรื่องสติ๊กเกอร์ส่วยทางหลวง หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดโปง กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ย้าย พล.ต.ต เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง อีกตำแหน่งหนึ่ง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทุจริต 2 แสนล้าน!‘วิโรจน์’ชี้เฉพาะ‘ส่วยทางหลวง’ 2 หมื่นล้าน จี้เด็ดปีกต้นตอ)
ล่าสุด วันนี้ (31 พ.ค.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ร่วมกับ บช.ก. ในฐานะผู้บังคับบัญชาตำรวจทางหลวง ให้รีบตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว สาเหตุที่ให้ทางจเรตำรวจเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับตำรวจในพื้นที่ด้วย
“ยอมรับว่ามีส่วยสติ๊กเกอร์จริง ในขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งตรวจสอบว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก มีมานานแล้ว แต่ช่วงนี้เนื่องจากเป็นเพราะกระแสข่าวทำให้ถูกพูดถึงในสังคมมากขึ้น อย่างไรก็ตามได้กำชับให้ทางจเรตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการ คาดว่าจะมีความคืบหน้าภายใน 15 วันนี้” ผบ.ตร. กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนทาง บช.ก. ได้สั่งการย้าย ผบก.ท. เพื่อให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสที่สุด สืบสวนขยายผลไปถึงผู้ที่รับส่วย หรือผู้ที่ส่งส่วย หากมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งความผิดทางอาญาและทางวินัยด้วย ผู้ที่จ่ายส่วยก็คือผู้ที่ทำการขนส่งโดยใช้รถบรรทุก ส่วนผู้รับส่วยอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือมีตัวกลางต่างๆที่รับมาอีกทีหนึ่ง จะต้องสรุปรายละเอียดการดำเนินการอีกทีหนึ่ง ซึ่งทาง ผบช.ก.ได้สั่งให้ ผบก.ปปป. มารักษาการผู้บังคับการตำรวจทางหลวงแทน ยืนยันว่าตำรวจทุกนายถ้ากระทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ปีนี้ก็ได้มีการดำเนินการปลดออก ไล่ออกไปกว่า 79 นายแล้ว
“การสั่งการให้ตรวจสอบรถบรรทุกผิดกฎหมายก่อนหน้านี้ ได้มีการสั่งการไปแล้ว แต่เนื่องจากเป็นข่าวดังขึ้นมาอีก ก็จะดำเนินการลงนามออกเป็นคำสั่งที่เป็นทางการ ให้เร่งดำเนินการกวดขันตรวจสอบรถบรรทุกผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น พร้อมกับจะให้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจ ตรวจสอบผู้ที่ละเลย หรือหย่อนยานกฎจราจรด้วย” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีรับข้อมูลในทุกมิติ ซึ่งได้มีการพัฒนามาในระดับหนึ่งแล้ว คือ การรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ ที่ได้มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย คนนอกหรือ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ และตำรวจที่ได้รับการคัดเลือกมาอีก 3 นาย มาเป็นคณะตรวจสอบ โดยสามารถสั่งดำเนินการได้โดยตรง หากผู้ใดพบการกระทำผิดของตำรวจก็สามารถเข้าไปร้องเรียนได้โดยตรงผ่านระบบเจคอม หรือโทรไปที่ 1599
“ลักษณะของการจ้องทำลายล้างเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการนำเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ซึ่งเป็นเรื่องเก่าแล้วเอามาโพสต์โซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ดูที่เจตนาของผู้โพสต์ว่าจ้องจะทำลายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชื่อเสียงอย่างไรบ้าง ก็อยากจะให้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทางตำรวจเองก็ทำงานหนักและทำงานในทุกมิติ ที่จะต่อว่าหรือโพสต์อะไรก็ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อน ใครก็ตามยินดีรับข้อมูลจากทุกมิติทุกฝ่าย” ผบ.ตร. กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อเห็นข่าวเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ก็ไม่อยากให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีก อยากจะทำให้หมดไปให้ได้ในยุคของตน ยืนยันว่าจะทำให้เต็มที่และได้สั่งการทุกหน่วยไปว่าหากหน่วยไหนยังมี ให้รีบแจ้งเบาะแสมา เพื่อจะได้รีบดำเนินการ จัดการส่วยต่างๆให้หมดไปให้ได้
“ไม่ได้เป็นการประกาศสงครามกับส่วยสติ๊กเกอร์ แต่เป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องประกาศสงครามเพราะไม่ได้มีสงครามกับใคร” ผบ.ตร. กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี