การค้าชายแดนนครพนมโตเร็ว กรมการขนส่งฯจับมือเอกชนลงเสาเอกศูนย์การขนส่งและโลจิสติกส์ เป็น GATE WAY สู่เพื่อนบ้านลาว เวียดนาม จีนตอนใต้
วันที่ 31 พ.ค.66 เมื่อเวลา 08.00 น.นายวิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในพิธียกเสาเอกโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวสร้างการรับรู้ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ณ บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการศูนย์การค้าชายแดนจังหวัดนครพนม เขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันนี้วันดีที่ทุกคนได้มาร่วมกันประกอบพิธียกเสาเอก เริ่มการก่อสร้างอาคารสำนักงานกลาง (Main office) ของโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม เป็นโครงการที่มีความสำคัญที่จะมาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายจะทำให้จังหวัดนครพนมเป็น GATE WAY ประตูการค้าของประเทศไทย จากอีสานตอนบนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้
ซึ่งศูนย์การขนส่งฯแห่งนี้ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมคัดแยกสินค้า และกระจายสินค้าไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดการขนส่งเที่ยวเปล่า ทั้งสินค้าที่นำเข้าและสินค้าที่ส่งออกไปต่างประเทศ และด้วยระยะทางที่จังหวัดนครพนมเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ มีระยะทางที่ใกล้มาก ถึงเวียดนามเพียง 170 กิโลเมตร และอีกประมาณ 700 กิโลเมตร ก็ถึงเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซีของจีน ที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่มาก ทำให้ที่ผ่านมามีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสูงมาก และเชื่อว่าในปี 2566 จะมีมูลค่าทะลุแสนล้านบาทอย่างแน่นอน และต่อไปในอนาคตคงจะมีมูลค่าเป็นหลักหลายแสนล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ผ่านเส้นทางนี้หลัก ๆ จะเป็นสินค้าทางการเกษตร และสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์
อธิบดีกรมการขนส่ง กล่าวต่อว่า โครงการนี้เป็นโครงการภายใต้แผนพระราชบัญญัติเอกชนร่วมลงทุน จะแล้วเสร็จในปี 2568 เป็นโครงการที่รัฐไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท มีเอกชนลงทุนโครงสร้าง 300 กว่าล้านในการสร้างคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงเครื่องมือยกขนต่าง ๆ ที่เหลือรัฐช่วยลงทุนให้ในเรื่องของการเวนคืนที่ดินจำนวน 121 ไร่ และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
โดยเอกชนได้สิทธิ์ร่วมลงทุนสัมปทาน 30 ปี มีหน้าที่บริหารจัดการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์และการบำรุงรักษาโครงการตลอดระยะเวลาร่วมลงทุน ซึ่งจะต้องลงทุนในส่วนนี้เพิ่มอีกประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ทั้งยังต้องจ่ายผลตอบแทนคืนให้แก่รัฐประมาณ 300 ล้านบาทตลอดเวลาสัมปทาน เชื่อว่าศูนย์ตรงนี้จะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าที่ทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด อีกทั้งเป็นการเตรียมพร้อมรองรับเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม ที่จะมาถึงในปี 2570 และทำให้จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์อีสานตอนบนอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นที่แล้วเสร็จจะสามารถรองรับตู้สินค้าได้ประมาณ 164,000 ตู้ และมีการวางเฟส 2 ที่เอกชนจะสร้างเพิ่มเติมอีกเมื่อปริมาณสินค้าเกิน 80 % หรือเมื่อมีระยะเวลา 15 ปีไปแล้วตามสัญญา
ด้าน นายบวรสินธุ์ ตันธุวนิตย์ กรรมการบริษัท เอสเอซีแอล จำกัด (ผู้ร่วมลงทุน) กล่าวว่า โดยภูมิศาสตร์จังหวัดนครพนมที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกได้ว่า จะส่งสินค้าผ่านทางจังหวัดนครพนมไปยังไปเมืองจีนหรือผ่านทางแหลมฉบัง เพราะระยะทางที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งศูนย์แห่งนี้คาดว่าจะทำให้เกิดประสิทธิภาพ ในการขนส่งจากนครพนมไปยังจีนสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด และเชื่อว่าต้นทุนในการขนส่งจะลดลงในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะจะมีรถไฟรางคู่มาสนับสนุน นั้นหมายถึงผู้ส่งออกจะได้เปรียบในเรื่องต้นทุนที่ลดลง โดยที่สินค้าเกษตรยังคงมีความสดและใหม่ตลอดเวลา ส่วนสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่จะผ่านทางเส้นทางนี้ก็จะมีการขนส่งเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะส่งมาประกอบที่ไทย และกลุ่มสินค้าอีคอมเมิร์ซที่เป็นสินค้าออนไลน์ ต้องการให้ถึงมือผู้บริโภคโดยเร็วภายใน 2-3 วัน
ขณะที่ นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม กล่าวเสริมว่า เส้นทางการคมนาคมจังหวัดนครพนม ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ตอบรับระบบขนส่งโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการส่งเสริมการลงทุนที่จังหวัดได้มีการเตรียมพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษไว้ 1,300 ไร่ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน การทำสาธารณะประโยชน์ การสาธารณสุข โรงแรมที่พัก และกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ
อีกทั้งในอนาคตที่จะมีรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่มาสิ้นสุดที่นครพนม จึงเชื่อว่าเมื่อศูนย์แห่งนี้เกิดขึ้นจะเป็นการเสริมศักยภาพของจังหวัดนครพนม ให้เติบโตทางด้านเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด บนพื้นฐานของความมั่นคง เนื่องจากเป็นศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ หรือ one stop service ในการช่วยอำนวยความสะดวก ในด้านศุลกากรให้มีความสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมการค้าชายแดนและเพิ่มขีดความสามารถการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของจังหวัดฯ คาดว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนในภาคอีสานตอนบน ได้รับผลประโยชน์ในอีกหลายด้านอย่างแน่นอน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี