ปลอมไลน์"รองต่อ" ตุ๋น"ต่างชาติ"อ้างพาเข้าพบช่วยวิ่งเต้นล้มคดี แลกค่าดำเนินการ เจ้าตัวปัดไม่เจตนาเพียงอยากช่วย วอนขอโอกาสกลับตัว "รองต่อ"สั่งตำรวจไซเบอร์เอาผิดเป็นตัวอย่าง เร่งขยายผลหลังค้นบ้านพักหนึ่งในผู้ต้องหา พบบัตรนักข่าวระบุสังกัดตำรวจไทย และโพยเก็บเงินจ่ายส่วยหน่วยต่างๆ
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ , พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท.สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.สอท.1 , พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2 , พ.ต.ท.ธนวัฒน์ แจ้งสว่าง รอง ผกก.4 บก.สอท.2 , พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 , พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สุขไทย สว กก.3 บก.สอท.2 เชิญตัว นายอำพุธ อายุ 40 ปี และนายคุณเดช อายุ 58 ปี มาซักถาม หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า มีพฤติกรรมแอบอ้างให้หลงเชื่อว่ามีความสนิทสนมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.และออกอุบายว่าสามารถช่วยเรื่องคดีความได้
โดยจุดแรกนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของนายคุณเดช เบื้องต้นไม่พบตัวนายคุณเดช พบเพียงภรรยาอาศัยอยู่ในบ้าน จึงได้ทำการตรวจสอบ และตรวจยึดบัตรประจำตัวสื่อมวลชนของนายคุณเดช ระบุสังกัดหนังสือพิมพ์ตำรวจไทย , สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม และโพยตัวเลขเก็บเงินหน่วยงานต่างๆ จำนวนมาก
จุดที่สองตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านนายอำพุธ เบื้องต้นพบเจ้าตัวอยู่ในบ้าน และทำการตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ขนาด .22 และเครื่องกระสุนปืน และเชิญนายอำพุธ มาสอบปากคำที่ บช.สอท.ซึ่งทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เดินทางมาร่วมซักถามข้อเท็จจริง
โดย นายอำพุธ ให้การปฎิเสธว่า ไม่ได้มีการแอบอ้าง เพียงแต่อยากจะช่วยเหลือเพื่อนชาวต่างชาติที่มีปัญหาด้านคดีความที่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเพื่อนต่างชาติรายนี้ระบุว่าอยากจะพบทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และจะมีค่าดำเนินการในการพาเข้าไปหา แต่ตนได้บอกว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ทางนายคุณเดช และเพื่อนอีกคนน่าจะรู้จักและสามารถประสานได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากช่วยเหลือเพื่อน และไม่มีเจตนา อยากจะขอโอกาสในการกลับตัว
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากมีผู้แจ้งเบาะแสว่าทั้งสองรายและพวก มีพฤติกรรมแอบอ้างว่ามีความสนิมสนมกับตน ออกอุบายว่าสามารถที่จะช่วยเหลือวิ่งเต้นคดีได้ โดยร่วมกันตัดต่อรูปภาพของตน และสร้างเป็นโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นไลน์ นำมาแสดงต่อบุคคลอื่น โดยเน้นชาวต่างชาติ อ้างว่ามีความสนิทสนมและทำงานใกล้ชิดกับตนเอง สามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นล้มคดีได้ ซึ่งในรายล่าสุดมีการนัดผู้เสียหายที่ร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่งย่านสาทร นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำภาพถ่ายร่วมกับข้าราชการระดับสูงในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ และนักการเมืองชื่อดัง รวมถึงภาพถ่ายขณะติดบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล ไปแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้พบเห็น ซึ่งในส่วนนี้ทำให้เกิดความเสียหาย และอาจทำให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนเข้าใจผิด จึงได้มอบหมายให้ บช.สอท.รับคำร้องทุกข์ สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐาน พบว่ามีมูลความจริง จึงขออนุมัติศาลออกหมายค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด ใน จ.ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อหาพยานหลักฐานมาใช้ในการยืนยันความผิด
ทั้งนึ้ ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากพบว่ามีบุคคลใด กล่าวอ้างหรือแอบอ้างถึงตนเองว่าสามารถช่วยเหลืออาชญากร หรือวิ่งเต้นล้มคดี โดยมีการเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด ขอให้เชื่อว่ากำลังถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน และฝากเตือนไปยังบุคคลใดก็ตาม ที่แอบอ้างว่ามีความรู้จักสนิทสนมกับตนเอง และนำชื่อหรือภาพถ่ายใดๆ ตนเองไปแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เลิกพฤติกรรม ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีทุกรายโดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะก่อความเสียหาย และความเชื่อมั่นศรัทธาในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายอำพุธ "มีอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้มีและใช้ให้กับบุคคลอื่น ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ก่อนนำตัวส่ง สภ.หนองปรือ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ม.14 อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าภายหลังการสอบปากคำแจ้งข้อกล่าวหานายอำพุธ เสร็จสิ้น ทางนายคุณเดช ได้ประสานเข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในส่วนของพลอยที่มีการระบุหน่วยงานต่างๆ ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบหากพบว่ามีการแอบอ้าง หรือเข้าข่ายการกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี