‘ชป.’จัดประชุมสัญจรรับมือฝนปี 66 ย้ำทุกภาคส่วนใช้น้ำประหยัด หลังเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงต้นฤดู
6 มิ.ย.2566 ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา จังหวัดสุพรรณบุรี ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำสัญจร เตรียมรับมือฤดูฝนปี 66 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 นายชัยรัตน์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 นายยศดนัย น้อยแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุพรรณบุรี นายธรรมนูญ บำรุงเพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ก่อนจะลงพื้นไปติดตามการเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนของอาคารชลประทานต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีตามลำดับ
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก และการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนปี 66 รวมทั้งพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน โดยได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล และทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ ร่วมบูรณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการวางแผนเตรียมรับมือฤดูฝน ตาม 12 มาตรการที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนด ซึ่งได้มีการเน้นย้ำให้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดการณ์ว่าในช่วงต้นฤดูฝนนี้จะเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง และมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวางแผนบริหารจัดการน้ำและวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพื้นที่ รวมไปถึงวางแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำในอนาคต ที่สำคัญให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำให้เกษตรกรได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้เกษตรกรใช้น้ำฝนในการเพาะปลูกเป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหาย รวมทั้งรณรงค์ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนและเพียงพอสำหรับทุกกิจกรรม ตลอดจนตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางอย่างสม่ำเสมอ และจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ให้พร้อมเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยได้ทันที
สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (6 มิ.ย.66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 40,265 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 36,072 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,590 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯรวมกัน สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 13,281 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 66 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี