เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 9 มิ.ย.66 ที่ สภ.วัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ ร่วมกันสอบปากคำนายบาดิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลกผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามปืนเอ็ม 16 กระหน่ำยิงนายแวง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก และนายมนู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เสียชีวิตหลังก่อเหตุนายบาดินได้หลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา 

กระทั่งล่าสุดวันนี้ นายบาดิน ได้ติดต่อเข้ามอบตัว ผ่านนักการเมืองท้องถิ่นที่ อบต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเข้าควบคุมตัว ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมที่ สภ.วัดโบสถ์ หลังจากสอบสวนเสร็จ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้นำตัวนายบาดิน ผู้ต้องหามาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน 

โดยนายบาดิน กล่าวว่า เหตุที่ลงมือยิงนายแวง และนายมนู สองพี่น้อง เนื่องจากแค้นที่นายแวง แอบมาตีท้ายครัว มีอะไรกับเมียตัวเอง และเคยเคลียร์กันมาก่อน แต่ก็ไม่ลงตัว ทำให้นายแวง แอบมายิงปืนใส่บ้านตน ซึ่งตนจำหัวกระสุนปีนของนายแวง ได้ ทำให้ในคืนเกิดเหตุจึงได้บังคับนายมนู น้องชายนายแวง พามาที่บ้านของนายแวง จากนั้นก็พยายามเคลียร์ แต่กลับไม่เป็นผล ทำให้บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 2 คนจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้าน แต่ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ จึงติดต่อขอมอบตัวผ่านนักการเมืองท้องถิ่น 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะลงก่อเหตุนั้นมีการตั้งใจจะยิงภรรยานายแวง ด้วยหรือไม่ นายบาดิน กล่าวว่า ตนไม่เคยจะยิงผู้หญิงแต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กดดันผู้ต้องหาให้มามอบตัวดังกล่าว เบื้องต้นได้ดำเนินคดีนายบาดิน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาพกอาวุธปืนที่ไม่ได้อนุญาต และไม่มีทะเบียน ซึ่งอาวุธนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลว่านายบาดิน ซื้อจากตลาดมืดที่ไหนอีกครั้ง เนื่องจากเป็นอาวุธสงคราม - 003