นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 41,438 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น ร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯรวมกันรองรับปริมาณน้ำได้อีก 34,899 ล้าน ลบ.ม.เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 12,191 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีก 12,680 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เรื่อง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณฝนตกเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ใน 21 จังหวัดทุกภูมิภาค จึงกำชับให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่เสี่ยงดำเนินการตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ของ กอนช.ปรับเป็น 6 แนวทางปฏิบัติ ประกอบด้วย 1.กักเก็บเต็มประสิทธิภาพ 2.คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง 3. หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง 4.ระบบชลประทานเร่งระบาย 5.เตรียมพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร และ 6.แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ รวมถึงเตรียมรับมืออุทกภัย วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ปริมาณน้ำท่า และกำหนดผู้รับผิดชอบพื้นที่เสี่ยง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดสรรทรัพยากร อาทิ เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และอื่นๆ เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี