เผยผู้ลี้ภัยสู้รบชาวเมียนมา เชื้อสายคะยา ได้มีการหลบหนีเข้าสู่ไทยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.เป็นต้นมา ล่าสุดมีผู้ลี้ภัยเข้ามาในไทยที่แม่ฮ่องสอนแล้วจำนวน 3,669 คน เสียชีวิตในค่ายลี้ภัย 1 คน ขณะที่ภายในรัฐคะยาทหารกะเหรี่ยงคะยา ยังคงโจมตีทหารเมียนมาและมีการสู้รบอย่างหนัก
วันนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกแถลงการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนเรื่อง สถานการณ์ชายแดนพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนฉบับที่ 4 ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. มีเนื้อหาดังนี้ สถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า ยังคงปรากฎข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมากับ กองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาบริเวณตามแนวชายแดนในพื้นที่ ด้านตรงข้าม ช่องทางเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และบริเวณช่องทางห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม ) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 3,669 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 2 พื้นที่ รายละเอียดดังนี้
1.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 2,761 คน เดินทางเข้า จำนวน 316 คน เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวจำนวน 1 คนคงยอดปัจจุบัน 3,076 คน
2.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะแข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 410 คน เดินทางเข้า 183 คน คงยอดปัจจุบัน 593 คน
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลความปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม. ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะแข่ ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอแจ้งให้ทุกภาคส่วน ได้รับทราบว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ด้านตรงข้ามพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ของทั้งสองฝ่าย และไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
ในการนี้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน และทุกภาคส่วน ในการตรวจสอบข่าวสาร ข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับประชาชน เพราะข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงนั้น จะสร้างความแตกตื่น และความหวาดกลัว ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยประชาชนสามารถรับฟังข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้จากการแถลงข่าวประจำวันของ ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำหรับสถานการณ์การสู้รบในรัฐคะยา ประเทศเมียนมา กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา ประกอบด้วย กลุ่ม KA KNDF PDF ได้ทำการโจมตีทหารพม่า ที่ถูกส่งมากวาดล้างฝ่ายต่อต้านในพื้นที่ รัฐคะยา ที่ อ.บอลาแคะ พื้นที่บ้านแม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อว์ ทำให้มีการสู้รบกันอย่างหนัก ส่งผลให้ราษฎรชาวคะยาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวพากันหลบหนีเข้าสู่ไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางด้านกลุ่มทหารติดอาวุธกลุ่มคะยา ได้เปิดการโจมตี ฐานที่มั่นทหารเมียนมา บริเวณตรงข้ามช่องทางห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้มีการสู้รบอย่างหนัก
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 เวลา 05.00 น. กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา ประกอบด้วย กลุ่ม KA KNDF PDF ได้ทำการบุกโจมตีสถานีตำรวจเมียนมา ที่บ้านแม่แจ๊ะ และค่ายทหารเมียนมา กองพัน คร.430 ที่ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย ตรงข้ามบ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยปฏิบัติการดังกล่าว ส่งผลให้ตำรวจเมียนมาและทหารเมียนมา พัน.คร.430 ถูกฝ่ายต่อต้านยึดค่ายได้ ทำให้ทางการเมียนมาส่งเครื่องบินรบมาโจมตีตอบโต้รวมไปถึงส่งกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นจนทำให้มีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี