‘บิ๊กโจ๊ก’เผยออกหมายจับอีก3
แก๊งตร.รีด140ล.
2ตร.ไซเบอร์ชิงเข้ามอบตัว
ยืนยันไม่ได้ร่วมทำความผิด
ยึดเซิร์ฟเวอร์ห้องผู้การชลฯ
‘อัจฉริยะ’โวมีคลิปหลักฐาน
“บิ๊กโจ๊ก”เผยศาลออกหมายจับ 3 พลเรือน เอี่ยวสีกากีรีดเงินเว็บพนัน 140 ล้านบาท ส่วนตำรวจที่เกี่ยวพันยังไม่ขอออกหมายจับ เชื่อไม่หลบหนีด้าน 2 ตร.ไซเบอร์ ยันไม่เกี่ยวข้อง อ้างทำตามหน้าที่เก็บหลักฐานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ส่วน ‘อัจฉริยะ’ชี้มีคลิปหลักฐาน ขณะที่ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ยันไม่ได้ทำผิด
เมื่อวันที่ 18มิถุนายน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีกลุ่มผู้เสียหายซึ่งลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กับพวกรวม 10 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต ,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่3 จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ภายหลังมีการเรียกเงินจากผู้ลักลอบทำเว็บพนัน Foxbet168 เป็นเงิน 140 ล้านบาท ว่าศาลได้ออกหมายจับพลเรือนที่เกี่ยวข้อง3 คน คือนายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ และภรรยาของนายวีระ
สำหรับพลเรือนที่ถูกออกหมายจับนั้น มีฐานความผิด 2 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน และร่วมกันในการกระทำการเอาทรัพย์ผู้อื่นไป โดยนายพิสิษฐ์และนายวีระ หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นับตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว โดยมีการเดินทางออกนอกประเทศอย่างถูกต้อง คาดว่ามีสายที่เป็นตำรวจรายงานแต่จะประสานประเทศปลายทาง เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดี
ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องมีประมาณ 11-12 นายไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงไม่ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับแต่จะประสานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทยอยให้พาเข้ามอบตัวตั้งแต่วันที่ 19มิถุนายนนี้ โดยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์อยู่ระหว่างการรวบรวมและตรวจสอบเส้นทางการเงินกับธนาคารและข้อมูลทางโทรศัพท์ซึ่งจะไล่ทั้งหมดและตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่ามีความเชื่อมโยงกับตำรวจกลุ่มไหนอีกบ้าง โดยตำรวจ 2 นาย ที่เข้าพบพนักงานสอบสวน ในวันเดียวกันนี้จะถูกแจ้ง 4 ข้อหาคือเรียกรับผลประโยชน์ ,ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ฯ , ข่มขืนใจผู้อื่นให้ได้ทรัพย์สิน และกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถใช้ตำแหน่งในการประกันตัว โดยต้องให้ความเป็นธรรมตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ด้านการดำเนินการทางวินัยจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน ขึ้นอยู่กับพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผบ.ตร.จะพิจารณาว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้พบพล.ต.ต.กัมพล และได้พูดคุยกันเพราะส่วนตัวเคยทำงานร่วมกันเคยสนิทสนมกันตนก็แนะนำว่าอะไรเป็นความจริงก็ต้องว่ากันตามความจริงพร้อมกับชี้แจงว่าส่วนตัวไม่ได้บาดหมางหรือเป็นศัตรูกันแต่ทำตามหน้าที่ขอให้เตรียมข้อมูลและหลักฐานมาให้ข้อเท็จจริงซึ่งตัว พล.ต.ต.กัมพล ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
เมื่อถามถึงฐานที่ตั้งของเว็บพนันที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวเข้าไปจับกุมอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 หรือไม่เหตุใดจึงเป็นชุดตำรวจภูธรภาค 2 เข้าไปจับกุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้ตอบคำถามนี้ โดยกล่าวเพียงว่าตำรวจภูธรภาค 2 มีการสืบสวนขยายผลจนเจอเครือข่ายนี้ ซึ่งเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าวใช้ชื่ออะไรตนจำไม่ได้ แต่เป็นเว็บขนาดใหญ่ มีทุนหมุนเวียนนับ 100 ล้านบาท จึงเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีตำรวจเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีการแจ้งข้อหากับกลุ่มเว็บพนันที่เข้ามาแจ้งความหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหา โดยอยู่ระหว่างสืบสวน หากพบความผิดก็จะดำเนินคดี ระหว่างนี้จะขอดำเนินการในส่วนของกลุ่มผู้ที่ไปรีดทรัพย์ก่อน ซึ่งจะเรียกตัวนายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ เข้ามาสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายอีกครั้ง
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ความจริงคดีดังกล่าวต้องเป็นคดีแรกในประเทศไทยที่จะใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เนื่องจากตามแนวทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ต้องมีการบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกแต่ครั้งนี้ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนมีเพียงการเข้ามาทำบันทึกจับกุมตามขั้นตอนเท่านั้นอีกทั้งยังไม่มีการแจ้งพนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองท้องที่ ซึ่งมีการควบคุมตัวทราบ
ต่อมาภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 2 ให้พาตำรวจที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีเข้ามารับทราบข้อหาแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับว่าทั้งหมดจะเข้ารับทราบข้อหาในวันเดียวกันนี้ และจะมีการสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อหาส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีจะทยอยเรียกตัวมาในสัปดาห์หน้า
ในส่วนของพลเรือน ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเข้าตรวจค้นบ้านพัก ซึ่งบ้านนายวีระ มีการขนของย้ายออกหมดแล้ว แต่ยังมีทรัพย์สินบางส่วนมั่นใจว่าเส้นทางการเงินจะสามารถไล่และตรวจสอบได้แม้ว่านายวีระ จะหลบหนี จะหนีก็หนีไป ขณะที่ตำรวจ บช.สอท.2 นาย ที่เข้ามารับทราบข้อหาแล้วนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยหลักการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาจะให้การอย่างไรก็ได้ ซึ่งเป็นสิทธิ
รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวลสว.สส.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง ได้เข้ารับทราบข้อหากับพนักงานสอบสวนและได้ปล่อยตัวไปแล้ว
ที่ สโมสรตำรวจ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาพร้อมกับพ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2 และ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 ซึ่งทั้งสองถูกกล่าวหาว่าร่วมกับพล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกันรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท จากเว็บพนันออนไลน์เข้ารับทราบข้อหากับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต โดยมีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้ารับมอบตัว ทั้งนี้ เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึง ก็ไม่ได้มีสีหน้าเป็นกังวลแต่อย่างใด พร้อมกับระบุว่า ขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการตบทรัพย์ผู้เสียหาย เนื่องจากไปทำหน้าที่เก็บรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ในบ้านที่เกิดเหตุ เพราะได้รับการประสานจากชุดตรวจค้นในบ้านที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ เปิดเผยว่า รู้ข้อมูลตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน จึงเดินทางมาเพื่อดูข้อเท็จจริงทั้งหมดตนยังไม่รู้ว่าถูกกล่าวหาในข้อหาอะไรบ้าง ยืนยันว่าทำหน้าที่ถูกต้องตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ยอมรับว่าได้เจอกับนายนายธนินวัฒน์ ในวันตรวจค้นจริง
ด้าน พ.ต.ท.ปฐมพงษ์กล่าวว่า ไม่มีความรู้สึกกังวลหรือหนักใจอะไร เพราะทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และวันดังกล่าวเดินทางไปพร้อมรอง ผบก.สส.บก.สอท.2 ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ขณะที่นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอในระหว่างที่ตำรวจทั้งสองนายปฏิบัติหน้าที่ โดยจะใช้เป็นหลักฐานด้วย และจะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอย่างแน่นอนหลังจากมีการดูข้อเท็จจริงกับทางตำรวจแล้ว ก็จะออกมาให้ข้อมูลอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ต.กัมพลเปิดเผยต่อสื่อมวลชนผ่านทางโทรศัพท์ ว่ายังไม่ได้รับการประสานจากคณะทำงานของรองผบ.ตร.ในคดีดังกล่าว จึงยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันเดียวกันนี้ ต่อข้อถามว่า ได้พูดวลีที่เป็นข่าวว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” ทาง พล.ต.ต.กัมพล ตอบว่าไม่เป็นความจริง และเมื่อถามว่าภายหลังเกิดเรื่องทั้งหมดมีความเครียดหรือไม่ พล.ต.ต.กัมพล ตอบเพียงสั้นๆว่าครับ
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ระบุว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากคณะทำงานของ รอง ผบ.ตร.ส่วนที่มีรายชื่อปรากฏเป็น1 ในผู้ถูกกล่าวหานั้น ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำ แค่คิดยังไม่กล้าคิดเลย หลังจากนี้จะทำรายงานชี้แจงต่อไป ซึ่งตนเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา
ส่วน พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี กล่าวยอมรับว่าเป็นหนึ่งในชุดที่เข้าไปจับกุมในวันดังกล่าวจริง แต่ยืนยันไม่ได้ตบทรัพย์ผู้ต้องหาตามที่เป็นข่าว และปฏิเสธว่าไม่ได้รู้จักกัน โดยรายละเอียดยังไม่ขอชี้แจง รอให้เข้าสู่กระบวนการก่อน แต่พร้อมให้ตรวจสอบ และขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการประสานจากคณะทำงานของ รอง ผบ.ตร.ให้เข้าชี้แจงแต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่ได้รับเอกสารในการให้เข้ารายงานตัวที่ ศปก.ตร.ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ โดยจากข่าวที่เผยแพร่ออกมา ยอมรับว่ารู้สึกเครียดมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี