“วราวุธ”อัปเดตอาการ“พลายศักดิ์สุรินทร์”กินอาหารปกติ ต้องสังเกตอาการ 30 วัน ยังไม่เปิดให้เยี่ยม แนะติดตามทาง เพจสถาบันคชบาล 2 ช่วงเวลา ปัดตอบปมคืนให้ศรีลังกา ชี้รอทีมแพทย์รักษาก่อน “กัญจนา” แจงปมดราม่า ย้ำบริจาคสีทอง 2.8 ตัน ทาองค์พระใหญ่ไม่ใช่ทองคำหลายกิโล
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแล‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ว่าพลายศักดิ์สุรินทร์เดินทางถึงสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ(ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย)องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง เมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ค.และเคลื่อนย้ายให้ไปอยู่ในพื้นที่กักตัวทันที เพื่อเฝ้าติดตามและระวังโรคติดต่อ ช้างมีอาการปกติ กินอาหารได้ตามปกติ โดยจะได้รับการดูแลอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน ภายใต้ระเบียบการควบคุมโรคระบาดสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อบางชนิด ช้างจะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากหลายหน่วยงานรวมทั้งสัตวแพทย์และควาญช้าง เพื่อให้ช้างได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ตลอดจนสร้างความคุ้นเคยกับควาญช้างไทย ภาษาไทยและได้ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมที่จากไปนานกว่า20ปี
ในส่วนประชาชนและสื่อมวลชน สามารถติดตามได้ ที่อาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง ผ่านกล้องวงจรปิดโดยที่ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการ สถาบันคชบาลแห่งชาติได้จัดให้มีการไลฟ์ผ่านทางแฟนเพจ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang (https://www.facebook.com/elephantcenter/) จะไลฟ์ทางเฟซบุ๊กศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ทุกวันวันละ 2 ครั้ง เวลา14.00-14.30และเวลา16.30-17.00น.เหตุผลที่ไฟล์ในช่วงบ่ายเพราะช่วงเช้าเป็นเวลาที่ทางสัตวแพทย์ทำการรักษาและครวญช้างทำความคุ้นเคยกับช้าง ช่วงเวลาที่ไลฟ์สดเป็นช่วงเวลาที่ช้างพักผ่อน จะจัดทำคลิปวิดีโอ เพื่อนำเสนอเรื่องราวการดูแลรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ตลอดระยะเวลา 30 วัน
ส่วนจะเปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้เมื่อไหร่นั้น รอพ้นช่วงเวลาการกักตัว พลายศักดิ์สุรินทร์จะได้พักผ่อนทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ ตลอดจนได้รับการดูแลรักษาจนมีสุขภาพแข็งแรงดีแล้วจึงจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าเยี่ยมพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยทางสถาบันคชบาลฯจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่าตอนนี้มีการตั้งคำถามกันมากว่าหลังรักษาเสร็จแล้วจะคืนพลายศักดิ์สุรินทร์ให้ศรีลังกาหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่าประเด็นนี้ ยังไม่ขอตอบ ต้องดูอาการบาดเจ็บพลายศักดิ์สุรินทร์ก่อนว่าเรื้อรังเพียงใดหรือสามารถรักษาให้หายได้100%อย่างไรหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับทีมสัตวแพทย์เป็นหลัก ให้เวลาทีมสัตวแพทย์ เข้ารักษาอาการป่วยก่อน
ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตาม สถานการณ์ของพลายศักดิ์สุรินทร์ว่าเท่าที่ทราบพลายศักดิ์สุรินทร์นอนได้ กินได้ เราทราบกันคือพ่อพลาย เป็นช้างที่เชื่องมากและอ่อนโยน เชื่อฟังปรับตัวได้เร็วทีมสัตวแพทย์จะได้เริ่มตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เราก็ต้องให้เวลาและรอฟังผล ตนมีแผนว่าจะเดินทางไปเยี่ยมศักดิ์สุรินทร์ ที่ลำปางหลังพ้นกักตัว30วันแล้ว และทางสถาบันคชบาลอนุญาตให้ประชาชนเข้าเยี่ยม ระหว่างนี้ตนและเอฟซีพ่อพลายก็ติดตามดูจากเพจของกรมอุทยานฯและเพจของสถาบันคชบาลไปก่อน
เมื่อถามถึงกรณีวิพากษ์วิจารณ์ถึงเบื้องหลังการกลับของพลายศักดิ์สุรินทร์าได้บริจาคเงินเป็นจำนวนมากและบริจาคทองคำจำนวนหลายกิโลกรัมนั้น น.ส.กัญจนา กล่าวว่าด้วยเมตตาของเจ้าอาวาส ทำให้เรานำพลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาตัวได้และได้ทราบว่าท่านเจ้าอาวาสกำลังสร้างองค์พระใหญ่องค์หนึ่งที่วัดและขาดสีทองที่จะใช้ทาองค์พระซึ่งในศรีลังกาไม่มีจะต้องสั่งจากเมืองไทยทั้งหมด 2.8 ตัน ตนจึงมีจิตศรัทธาอยากจะทำบุญและขอถวายสีทอง ขอชี้แจงว่าสีทอง ไม่ใช่ทองคำ ไม่ใช่เงื่อนไขตามที่นำไปวิพากษ์วิจารณ์กันนำไปดราม่า จนเข้าใจผิดกัน ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากหลังรักษาแล้วจะส่งพลายศักดิ์สุรินทร์กลับศรีลังกาหรือไม่น.ส.กัญจนากล่าวว่าเงื่อนไขที่เจ้าอาวาสที่ได้กรุณาให้พลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาตัวท่านใช้คำว่า”กระทั่งแข็งแรงเต็มร้อย”คำๆนี้วินิจฉัยยาก เมื่อดูจากสภาพพ่อพลายแล้วทรุดโทรมมากน่าจะต้องรักษาตัวอยู่ที่ไทยอีกยาวอาจจะจนสิ้นอายุขัยของเขา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี