ในทุกการจัดงาน EVENT หรือมหกรรมต่างๆ นั้น “Showcase” คือหนึ่งในกิจกรรมที่จะสามารถใช้ประชาสัมพันธ์งาน รวมถึงเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานที่จัดขึ้นได้เป็นอย่างดีล่าสุดในงาน “TEP x OIIO Asia Techland 2023” ที่นำเสนอความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ นวัตกรรมล้ำสมัยและโซลูชั่นแห่งอนาคตนั้น Showcase ของ “FIBO” สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้ได้เช่นกัน
ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซเชียลแล็บ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานกล่าวว่า เนื่องจากธีมงานของเราในครั้งนี้ เป็นการสร้างพื้นที่ให้กับผู้คิดค้นหรือสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อาจจะยังไม่สำเร็จ 100% ได้มาพบกับผู้ประกอบการหรือนักลงทุน ซึ่งหนึ่งในทิศทางของนวัตกรรมและเทคโนโลยียุคต่อไป คือการเข้าไปสร้างความน่าสนใจและมีจุดขายให้กับ Soft Power ต่างๆ ซึ่ง FIBO ได้ทำให้เห็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ มา Matching กับธุรกิจด้านอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power ของประเทศไทย
บางตัวอย่างของผลงาน เช่น “Ice-creme Robot : หุ่นยนต์เสิร์ฟไอศกรีม” คือแขนกลที่ถูกติดตั้งอยู่บนรถกระบะที่ดัดแปลงเป็นร้านขายไอศกรีม หรือ Food trucks โดยมีมอเตอร์ควบคุมให้ขยับหรือหมุนแขนแต่ละส่วน เพื่อให้ปลายของแขนกลที่จับโคนไอศกรีมสามารถเคลื่อนแขนไปรับเนื้อไอศกรีมที่ไหลออกจากเครื่องหยอดที่ตั้งอยู่ภายใน แล้วนำไอศกรีมโคนกลับมาส่งให้กับลูกค้าที่ยืนรอด้านหน้าได้อย่างแม่นยำ โดยขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้น
ธัชภูมิ ธัชธัน นักศึกษา FIBO ชั้นปีที่ 4 เล่าถึงแนวคิดและการพัฒนาหุ่นยนต์แขนกลที่ใช้เวลาในพัฒนาเพียง 7 วัน ว่า เนื่องจากท้ายรถกระบะมีพื้นที่จำกัด จึงเลือกใช้แขนกล มาเป็นอุปกรณ์หลักของงานชิ้นนี้ เพราะเมื่อเรากำหนดจุดหรือตำแหน่งที่มอเตอร์แต่ละตัวต้องขยับในแต่ละขั้นตอนของการทำงานได้อย่างถูกต้องเข้าไปในโปรแกรม แขนกลก็จะทำงานไปตามระบบที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจากการที่ตนและเพื่อนผ่านงานเขียนโปรแกรมบังคับแขนกลของโรงงานมาแล้ว จึงได้รับมอบหมายให้ทำงานชิ้นนี้ ด้วยการใช้แขนกลในห้องปฏิบัติการของ FIBO มาติดตั้งกับรถกระบะ และเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรมที่เราสร้างขึ้นเพื่อภารกิจนี้
สุทธิเดช ธุวะศรี เจ้าของแบรนด์ไอศกรีม “ดูคาติม” กล่าวว่า การที่นักศึกษาสามารถนำแขนกลที่ใช้เพื่อการเรียนในห้องปฏิบัติการมาพัฒนาให้เสิร์ฟไอศกรีมบนรถกระบะที่มีพื้นที่แคบได้ในเวลาเพียงสั้นๆ เช่นนี้ ทำให้มองไปถึงความเป็นไปได้การนำชิ้นงานนี้ไปใช้กับธุรกิจไอศกรีมของตนเอง โดยน้องๆ บอกว่า หากมีเวลามากกว่านี้ก็จะสามารถพัฒนาเป็นระบบสมบูรณ์ได้มากขึ้น ซึ่งทางบริษัทเองก็มองไปถึงการนำระบบแขนกลมาใช้ทำงานทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ เพียงกดสั่งและชำระเงินผ่านตัวเครื่องหรือแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ก็ยืนรอรับไอศกรีมได้เลย ซึ่งต่อไปหากเราสามารถพัฒนาตรงนี้ร่วมกับ FIBO ก็คาดว่าน่าจะสำเร็จได้ในเวลาไม่เกินครึ่งปี
“Noodle Robot : หุ่นยนต์ลวกก๋วยเตี๋ยว” เป็นอีกรูปแบบของการต่อยอดให้กับอาหารไทยด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้อย่างน่าสนใจ โดยหลังจากลูกค้าเลือกเมนูที่ต้องการแล้ว แขนกลของหุ่นยนต์จะยืดไปหยิบตะกร้อซึ่งใส่เส้นแล้วนำไปลวกในหม้อ ก่อนนำมาเทในชามที่เตรียมไว้เป็นลำดับแรก จากนั้นตัวแขนกลก็จะไปหยิบตะกร้อที่ใส่ลูกชิ้น ผักบุ้ง และอื่นๆ มาลวกในหม้อก๋วยเตี๋ยวตามเวลาที่กำหนดไว้ ก่อนยกขึ้นมาและเทลงไปในชาม เพื่อส่งให้ลูกค้าต่อไป
ผลงานชิ้นนี้เป็นการจับคู่กันระหว่าง ร้านก๋วยเตี๋ยวนายอ้วน กับ บริษัท แอนท์ โรโบทิกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท System Integrator โดยเจ้าของบริษัทคือ โชคชัย เป็งยะสา ศิษย์เก่าปริญญาโท FIBO เล่าว่า ใช้เวลาการสร้างเพียง 8 วัน ซึ่งโจทย์ของงานนี้คือการนำศาสตร์ด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ FIBO สอนอยู่ ทั้งระบบเคลื่อนไหว ระบบควบคุม ระบบไฟฟ้า ระบบ logic ต่างๆ ตลอดจนทักษะในการวางแผนการทำงาน ร่วมกับประสบการณ์ด้าน robotics ของบริษัท มาเลียนแบบขั้นตอนการลวกก๋วยเตี๋ยวของพ่อครัวตัวจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในการพัฒนาต่อยอด เพื่อนำไปติดตั้งและใช้งานจริงกับบางสาขาของร้านก๋วยเตี๋ยวนายอ้วนต่อไป
“แม้จะมีหลายขั้นตอนที่ต้องเปลี่ยนไปบ้าง เช่น เปลี่ยนไปใช้หม้อไฟฟ้าที่ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า การยกตะกร้อขึ้นมาสะบัดแทนการจุ่มตะเกียบลงไปคนเส้นในตะกร้อ ซึ่งจากการลองผิดลองถูกหลายต่อหลายครั้ง ด้วยข้อมูลจริง ทั้งอุณหภูมิเวลา และการเปรียบเทียบกับของจริง ทำให้ก๋วยเตี๋ยวที่ผ่านการลวกด้วยหุ่นยนต์ของเรามีรสชาติใกล้เคียงกับสูตรต้นฉบับ” โชคชัย กล่าว
นอกจากการพัฒนา “หุ่นยนต์เสิร์ฟไอศกรีม” และ “หุ่นยนต์ลวกก๋วยเตี๋ยว” ที่เกี่ยวข้องกับธีมหลักในงาน โซน Future Food Court แล้ว ยังมีผลงานเด่นๆ ของ FIBO ได้แก่ “CARVER TT : หุ่นยนต์พนักงานเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร” “Meta Market : การช้อปปิ้งในโลกเสมือน” และ “RoboDog : หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงสุดไฮเทค” รวมถึง “Virtual Fight : ชกมวยเสมือนจริง” อีกหนึ่งผลงานที่แสดงถึงศักยภาพของ FIBO ในการสร้างชิ้นงานเพื่อจัดแสดงในงานอีเวนท์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
Virtual Fight : ชกมวยเสมือนจริงเป็นการการนำอุปกรณ์ 2 อย่างที่ FIBO มีอยู่ คือ “Teslasuit (bodysuit ที่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าระดับอ่อนผ่านชุดที่สวม ไปทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงการถูกช็อตในตำแหน่งที่ต้องการได้)”กับ “sensor รับแรงกระแทก” มารวมกันโดย 2 ผู้พัฒนาผลงานชิ้นนี้ เชาวลิต ธรรมทินโน นักวิจัย และ อรรถพลใจลังการ์ ผู้ช่วยนักวิจัย กล่าวว่า ไอเดียคือการสร้างระบบสื่อสารและระบบควบคุม ที่ทำให้อุปกรณ์สองชิ้นนี้ รู้จักและทำงานร่วมกันได้ เพื่อการสร้างเวทีมวยที่สามารถชกมวยโดยไม่จำเป็นต้องมีคู่ชกจริงแต่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงได้
ผลงานชิ้นนี้มีการติดเซ็นเซอร์ไว้ที่กระสอบทรายหลายตัว โดยเซ็นเซอร์แต่ละตัวจะเปรียบเสมือนเป็นร่างกายส่วนต่างๆ ทั้งลำตัว แขน และขา เช่น เมื่อฝ่ายรุกมีการต่อยหรือเตะกระสอบทรายตรงจุดที่กำหนดเป็นแขนซ้าย เซ็นเซอร์ตรงนั้นก็จะส่งค่าความแรงที่ได้รับผ่านระบบสื่อสารมาที่ระบบควบคุม ตัวระบบจะแปลงค่าเป็นระดับการปล่อยกระแสไฟฟ้า และส่งข้อมูลนั้นผ่านระบบสื่อสารไปยัง Bodysuit บนแขนซ้าย เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา ทำให้คนสวมชุด Teslasuit รู้สึกเหมือนโดนอีกฝ่ายชกที่แขนซ้ายจริงๆ
ผศ.ดร.สุภชัย วงศ์บุณย์ยงผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มจธ. กล่าวว่าที่ผ่านมาชิ้นงาน FIBO ที่ได้ถูกนำไปจัดแสดงร่วมอยู่ในงานอีเว้นท์ต่างๆส่วนใหญ่จะถูกคิดหรือทำมาก่อน ผลงานมีแบบที่สมบูรณ์แล้ว หรืออยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่สำหรับโจทย์ที่ได้รับจากผู้จัดงาน TEP x OIIO Asia Techland 2023 คือสิ่งที่ต่างออกไป
“เนื่องจากผู้จัดงานต้องการให้Showcase ของเราเป็นการ Matchingระหว่างเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติที่เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญ กับการทำอาหารของร้านอาหารที่กำหนดไว้ เป็นโจทย์ให้ FIBO จะต้องใช้ศักยภาพของบุคลากรนักศึกษา รวมถึงเครือข่ายความร่วมมือที่มีอยู่ มาทำให้เกิดชิ้นงานใหม่ตามโจทย์ภายใต้ระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนดไว้ให้ได้” ผศ.ดร.สุภชัย กล่าว
ผศ.ดร.สุภชัย กล่าวในตอนท้ายว่า ทั้งหุ่น Virtual Fight และ Ice-creme Robot ที่สร้างโดยบุคลากรของ FIBO เองหรือแม้แต่ Noodle Robot ที่ได้บริษัทของนักศึกษาเก่า FIBO มาทำโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายครั้งนี้ มีจุดเด่นที่สำคัญคือเป็นงานที่เน้น “ไอเดีย” และเปิดกว้างด้าน “ความคิดสร้างสรรค์” ในการนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาทำให้เกิด “ชิ้นงานใหม่”ที่ทำงานได้จริงภายใต้งบประมาณและเวลาที่จำกัด
ซึ่งการทำงานลักษณะนี้นอกจากจะสร้างประสบการณ์และทักษะการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งให้กับนักวิจัย บุคลากร และนักศึกษาของ FIBO แล้ว กิจกรรมในลักษณะนี้ยังสามารถมีส่วนสนับสนุนให้คนในสังคมเกิดการยอมรับและเห็นประโยชน์ของการสร้างเทคโนโลยีและบุคลากรด้านนี้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาวต่อไป!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี