DSIย้ำต้องมาเอง

‘ดีเจเพชรจ้า-ฟิล์ม รัฐภูมิ’

ชี้แจงปม‘แชร์ฟอเร็กซ์’

ไม่รับแถลงด้วยเอกสาร

เหตุต้องสอบหลายส่วน

ดีเอสไอ ยืนยัน “ดีเจเพชรจ้า-ฟิล์ม รัฐภูมิ” ต้องมาชี้แจงความเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ Forex-3D ด้วยตัวเอง ระบุไม่ขอรับเป็นเอกสารคำอธิบาย เพราะต้องการสอบถามข้อเท็จจริงอีกหลายส่วน ขณะที่ดีเจคนดังขอเลื่อนนัดออกไปเป็นวันที่ 18 สิงหาคม

เมื่อวันที่ 25กรกฎาคม 2566 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ตอบข้อสงสัย คดีพิเศษที่42/2566 กรณีในความผิดฐานฟอกเงินและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องจากคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D หรือ คดีฟอกเงินแชร์ Forex-3D ภาค 2 รวมถึงคดีพิเศษที่ 11/2566 หรือ คดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D ภาค 4

พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบได้มีการดำเนินการทางคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D มาทั้งหมด 3 ภาค ปัจจุบันถือเป็นภาคที่ 4 เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 153/2562 ปรากฏมีเส้นทางการเงินไปเชื่อมโยงกับบุคคลทั้ง 3 ราย ที่ดีเอสไอออกหมายเรียกพยาน ประกอบด้วย น.ส.พัชรา ทับทอง หรือกระปุก บิดาและพี่ชายกระปุก ให้เข้าชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งกรณีของกระปุกและญาตินั้น จากเส้นทางการเงินที่ดีเอสไอพบมีจำนวนเงินหลายบาท มีลักษณะการโอนเงินถี่หลายครั้ง อาจจะมีนัยยะในการทำนิติกรรม เพราะบางตัวเลขอาจไปสอดคล้องกับการลงทุนได้ด้วย เฉลี่ยตัวเลขจำนวนเงินตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านบาท นอกจากนี้ ญาติของกระปุกก็ยังมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ด้วย คือ นายนิโค โวคูคา หรือ นิค สามีพี่สาวกระปุก

อีกทั้งกรณีของคดีฉ้อโกงแชร์ลูกโซ่

โดยปกติแล้วดีเอสไอจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการตรวจสอบติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง ทั้งการยักย้าย ถ่ายเท การทำธุรกรรมทางการเงิน จึงพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีเส้นเงินเข้าไปเกี่ยวข้อง เบื้องต้น 8ราย โดยสองในนั้นคือนักแสดงชายชายชื่อดังและดีเจชื่อดัง เนื่องจากพบว่าทั้งคู่มีธุรกรรมทางการเงินร่วมกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ และ บจก. มี ดี เพย์ ตามห้วงเวลาปี 2561 และปี 2562 แต่ดีเอสไอเราไม่ได้ดูเพียงพยานหลักฐานเเค่เรื่องเส้นทางการเงินเท่านั้น ยังมีพยานหลักฐานอีกหลายส่วนที่อยากให้เจ้าตัวได้เข้าอธิบายชี้แจง ทั้งอาจจะเป็นรูปภาพและความสัมพันธ์รู้จักกัน ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะเราต้องตรวจสอบชัดๆว่าการที่มีเส้นเงินไปเชื่อมโยงกันมันมีได้หลายปัจจัย อาจจะเป็นเรื่องการลงทุน หรืออย่างอื่นก็เป็นไปได้ ส่วนกรณีที่ดีเจเพชรจ้าและฟิล์ม-รัฐภูมิ ได้อัดคลิปวีดีโอเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้ ดีเอสไอต้องขอขอบคุณ อย่างไรก็ตาม วิดีโอเหล่านี้จะถูกรวบรวมไว้ใช้เป็นพยานหลักฐานด้วย

ส่วน บจก. มี ดี เพย์ มีลักษณะการประกอบกิจการอย่างไรนั้น พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า บริษัทแห่งนี้ตกเป็นจำเลยในคดีฉ้อโกงแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ภาค 1 มาก่อน โดยมีพฤติการณ์เป็นจุดกระจายของผลตอบแทน เป็นเหมือนถังเงินที่เชื่อมโยงไปยังบุคคลต่างๆ

พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ดีเจเพชรจ้าได้มีการประสานมายังพนักงานสอบสวนโดยจะขอส่งเป็นเอกสารคำชี้แจงแทนการเข้าพบดีเอสไอ แต่ตามหลักการของดีเอสไอ เราอยากให้เจ้าตัวเข้ามาพบเพื่อรับทราบประเด็นการสอบสวนของเรา อีกทั้งเรายังมีพยานหลักฐานหลายส่วนที่ต้องสอบถามเพื่อให้เจ้าตัวได้อธิบายข้อเท็จจริงให้มากที่สุด และถ้าทั้งคู่จะนำเอกสารการทำธุรกรรมมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันว่าเป็นการรับโอนเงินจากการทำธุรกิจใดๆ ก็สามารถนำมามอบให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษนัดหมายให้ดีเจเพชรจ้าเข้าพบในวันที่ 17 ส.ค. ล่าสุดเจ้าตัวได้ประสานขอเลื่อนเข้าพบเป็นวันที่ 18 ส.ค.

เมื่อถามถึงกรณีที่มีญาติของนายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ สามีของนักแสดงสาวชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาลเข้าไปเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ด้วยนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตามข้อมูลการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีญาติของบุคคลดังกล่าวบางส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง มีลักษณะเกี่ยวกับการโอน-รับเงิน ซึ่งเราก็จะเรียกมาสอบถามเช่นเดียวกันว่าเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับเรื่องอะไร นอกจากนี้ ถ้าหากมีการรวบรวมพยานหลักฐานจนครบถ้วนทั้งหมดแล้วพบว่านายรามาก็มีส่วนพัวพันเช่นเดียวกัน ทางดีเอสไอก็จะดำเนินการทางอาญาซึ่งก็ถือว่าเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกับคดีที่เจ้าตัวถูกจำคุกอยู่ในขณะนี้

เมื่อถามว่ามีการออกหมายเรียกแก่นายขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ หรือ กระทิง นักแสดงหนุ่มหรือยัง พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า ขณะนี้ขอให้พนักงานสอบสวนได้ทำหน้าที่ก่อนสักระยะ เพราะเราต้องได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนก่อน เนื่องจากประเทศไทยใช้ระบบการสอบสวนด้วยการกล่าวหา ดังนั้น เมื่อมีบุคคลใดมากล่าวหาบุคคลใด ดีเอสไอก็มีหน้าที่ในการสอบสวน และเมื่อสอบสวนไปแล้วก็ต้องฟังพยานหลักฐานให้รอบด้าน จึงจะพิจารณาจากหลักฐานนั้นๆว่าสมควรแก่การออกหมายเรียกผู้ต้องหา แจ้งข้อหาได้หรือไม่ ซึ่งเราก็เร่งดำเนินการในส่วนนี้อยู่