ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ผัวเมียเจ้าของโกดังพลุมรณะตลาดมูโนะ จ.นราธิวาส แล้ว หลังไม่เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียก คาดหลบหนีไปมาเลเซีย แหล่งข่าวเผยเส้นทางลักลอบขนวัตถุอันตราย มาจากภาคเหนือลำเลียงลงไปยังภาคใต้ ก่อนส่งไปขายมาเลเซีย นายกฯสั่งการให้ตรวจสอบ สืบสวน หาผู้รับผิดชอบและเกี่ยวข้องในทุกกรณีย้ำให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เร่งสืบสวนให้คลายข้อสงสัย ตอบคำถามสังคมให้ได้

ความคืบหน้าเหตุโกดังเก็บพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ระเบิดในชุมชน ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บมากกว่า 100 ราย ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและร้านรวงของประชาชนโดยรอบเกือบ 300ครัวเรือนนั้น

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 หลังจากมีรายงานว่าเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิดที่ตลาดมูโนะ จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ปากคำ ตามหมายเรียก แต่ปรากฏว่าไม่ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ ล่าสุด พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับ นาย สมปอง และ น.ส.ปิยะนุช เจ้าของโกดังแล้วในฐานความผิดในข้อหาการกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต , กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย , มีไว้ นำพา หรือ ครอบครองดอกไม้เพลิง ดอกไม้ไฟ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และ ฝ่าฝืนคำสั่งของ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เรื่องการขออนุญาตการเคลื่อนย้ายครอบครองและไว้จำหน่ายในวัตถุระเบิด ส่วนความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ ทางผบ.ตร.กำชับให้ประสานไปยังตำรวจมาเลเซียในการช่วยติดตามจับกุม แม้จะหลบหนีไปที่ไหน ก็ต้องนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้

จากประวัติพบว่าเจ้าของโกดังทั้ง 2 คน เคยถูกตำรวจ สภ.มูโนะ จับกุมเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2559 หรือเมื่อ 7 ปี ก่อน ในคดีค้าดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนในท้องที่ และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามพระราชกำหนดการบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ไม่ได้ถูกดำเนินคดี เนื่องจากอัยการสั่งไม่ฟ้อง

ช่วงบ่าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ อ.สุไหงโกลก เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าผลการสืบสวนสอบสวนคดี หลังจากเมื่อวานนี้ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจ สภ.มูโน๊ะ จำนวน 4 รายประกอบด้วย ผกก., รอง ผกก.ป , สว.ป.และ สว.สส.โดยให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นธรรม ให้สังคมเกิดความเชื่อมั่น เนื่องจากคดีนี้ถูกจับจากสังคมในวงกว้าง จึงต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาทุกมิติ ครอบคลุม ทุกประเด็นข้อสงสัย ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่หมายเลข 1599

ด้านพล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เปิดเผยถึงแนวทางการสอบสวนเพื่อการเอาผิดกับทุกคน ทุกขบวนการที่เกี่ยวข้องกับวัตุอันตราย พลุดอกไม้ไฟ และประทัด ที่เป็นของร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ จดทะเบียนในชื่อของ น.ส.ปิยะนุช ว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เรียกระดมพนักงานสอบสวนจาก 13 สภ. เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ให้เกิดความรวดเร็ว รวมทั้งในการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าวัตถุอันตราย พลุ ดอกไม้ไฟ และประทัด และการสอบสวนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินในเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน

ในส่วนของการสืบสวนที่มาของ พลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ที่เกิดระเบิดขึ้นซึ่งเป็นของน.ส.ปิยะนุชและนายสมปอง หรือ เจ้หลิน กับ เสี่ยไหว ได้สั่งการไปแล้วว่า หากสาวถึงใคร ต้องนำมาสอบสวนและเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด ตั้งแต่ที่มา เช่นมาจากไหน ซื้อจากใคร มีใบอนุญาตในการขายและการขนส่ง หรือไม่ รวมทั้งให้สืบสวนสอบสวนผู้ค้ารายอื่นๆในตลาดมูโนะ ที่มีอีกหลายราย และรับทราบจากชาวบ้านว่าในคืนเกิดเหตุ มีการใช้รถยนต์มาขนวัตถุอันตรายนี้ออกไป ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจค้น เพื่อที่จะได้ติดตามว่าขณะนี้ วัตถุอันตรายถูกนำไปเก็บไว้ที่ไหน ซึ่งฝ่ายปกครอง อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบ ร้านค้าใน อ.สุไหงโก-ลก ที่มีอยู่จำนวน 52 แห่ง ซึ่งอาจจะซื้อไปจาก สองสามีภรรยา เจ้าของโกดังที่ตลาดมูโนะด้วยก็ได้ เราจะสอบให้หมด

สำหรับที่มา หรือ เส้นทางของ พลุ ประทัด และ ดอกไม้ไฟ ในรูปแบบต่างๆ ที่กลายเป็นสินค้าที่ชาวมาเลเซีย นิยมนำไปเล่นนั้น แหล่งข่าวที่อยู่ในการค้าวัตถุอันตรายเหล่านี้ เปิดเผยว่าบางส่วนเป็นสินค้าที่ผลิตจากประเทศจีน แต่ไม่ได้นำเข้าทางประเทศมาเลเซียเพราะมาเลเซียมีกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำเข้าดังนั้นกลุ่มผู้นำเข้าจึงลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย เช่น จ.เชียงราย อ.แม่สอด จ.ตากและอื่นๆ ที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา อีกส่วนหนึ่ง มาจากโรงงานผลิตที่อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย โดยมีศูนย์กลาง การค้าวัตถุอันตรายอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ และอ.สะเดา บริเวณชายแดนแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อง่ายในการ ลักลอบส่งขายให้ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า พลุ ดอกไม้ไฟ และ ประทัด จำนวน 6 ตัน ที่เกิดระเบิด และที่ยึดได้ในร้านค้าอีกหลัง ซื้อจากผู้ค้าใน อ.หาดใหญ่

สำหรับการสั่งย้าย 4 เสือ สภ.มูโนะ เนื่องจาก มีการพาดพิงว่า มีการรับส่วยจากผู้ค้าของผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงให้ย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคในการสอบสวน ส่วนผิด หรือไม่ผิด เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการซึ่งมีการแต่งตั้งให้ พล.ต.ปราบพาล มามงคล รอง ผบช.ภ.9 เป็นประธานการสอบข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับ“จ่า ฟ.”มีข่าวว่าเป็นผู้เก็บส่วยก็ได้สั่งการให้เรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริง รวมทั้งตำรวจทุกคนใน สภ.มูโนะ ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินคดีทุกคน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุอันตราย หรือสารตั้งต้นก่อให้เกิดระเบิด หรือสถานที่เก็บดอกไม้เพลิงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งดำเนินการทุกมิติ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงเร่งรัดการสอบสวนดำเนินคดี ขยายผลดำเนินการผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งการขยายผลไปตรวจค้นโกดังพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอึก

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ตำรวจได้มีการออกหมายจับเจ้าของโกดังแล้ว จากรายงานพบว่าได้หลบหนีอยู่ประเทศมาเลเซีย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงได้ประสานไปยังตำรวจมาเลเซียในการช่วยติดตามจับกุม ถึงแม้จะหลบหนีไปที่ไหน ทางการจะนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับประเด็นข้อสงสัยของสังคม ว่าโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟ มาตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนได้อย่างไร มีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เร่งทำความจริงให้ปรากฎ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับผลประโยชน์ รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ให้ดำเนินการเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง โดยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามข้อสั่งการนายก

น.ส.รัชดา กล่าวย้ำว่า นายกฯ สั่งการให้มีการตรวจสอบ สืบสวน หาผู้รับผิดชอบ และเกี่ยวข้องในทุกกรณี และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทั้งเจ้าของ และผู้เรียกรับผลประโยชน์ หากพบเจ้าหน้าของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น พร้อมทั้งให้เร่งตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อพิจารณางบประมาณในการเยียวยาและการฟื้นฟูเพิ่มเติมจากงบประมาณปกติ

พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงที่จะเข้าพื้นที่เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าปฎิบัติการฟื้นฟูพื้นที่อย่างเต็มที่ อีกทั้ง จะได้ไม่เป็นอันตรายเพราะยังคงมีเศษวัสดุอันตราย ซึ่งอาจเกิดระเบิดได้อีก