เผาแล้ว! พ่อลูกผูกคอตายหนีความจน ญาติ-เพื่อนบ้านเคยขอลูกไปดูแลแต่ไม่ยอม ผวาวิญญาณเฮี้ยน จุดธูปบอกก่อนรื้อบ้านทิ้ง
วันที่ 5 ส.ค.66 รายงานแจ้งว่า จากกรณี นายไพบูลย์ หรือ แอ๊ด อายุ 31 ปี ชาว ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ใช้ของแข็งทุบศรีษะ ด.ญ.ข้าว ลูกสาววัย 10 ขวบ ก่อนจะใช้เชือกผูกคอกับขื่อบ้านจนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะใช้เชือกผูกคอตัวเองตายตามภายในบ้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.คูเมือง ได้นำร่างสองพ่อลูกที่ส่งไปตรวจชันสูตรที่ รพ.บุรีรัมย์ กลับมายังวัดบ้านสาวเอ้ อ.คูเมือง เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยช่วงเช้าได้ฌาปนกิจศพลูกก่อน จากนั้นช่วงบ่ายก็เผาศพพ่อ โดยสาเหตุที่ทางครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจในวันนี้เลย เนื่องจากศพทั้งคู่มีสภาพเน่าเปื่อยแล้ว
โดยได้มี นายโสภณ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.บุรีรัมย์ ได้มาเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ ขณะที่ นางภาคินี ตั้งตรงเวชกิจ นายกเทศมนตรีตำบลหินเหล็กไฟ ได้เป็นเจ้าภาพดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายภายในงานศพทั้งหมด ทั้งนี้ได้มีผู้นำชุมชน ผู้บริหารโรงเรียน ครู ชาวบ้าน และนักเรียน มาร่วมแสดงความอาลัยและฌาปนกิจศพสองพ่อลูกด้วยความโศกเศร้า เพราะต่างไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
ขณะบรรยากาศที่บ้านหลังเกิดเหตุทั้งญาติและชาวบ้านได้ทำพิธีจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณสองพ่อลูก ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี พร้อมบอกกล่าวว่าจะทำการรื้อบ้านทิ้งตามความเชื่อคนเฒ่าคนแก่ เพราะการตายในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการตายโหง 2 ศพ พร้อมกันหากไม่รื้อบ้านทิ้งวิญญาณจะเฮี้ยนหลอกหลอนคนอื่น
นายบุญเรือง ปุยะติ เพื่อนบ้านบอกว่า หลังจากเข้ามาเจอศพสองพ่อลูกผูกคอตายในบ้าน ซึ่งคาดว่าตายในวันพระใหญ่ด้วยก็เป็นภาพติดตานอนไม่หลับ และการตายดังกล่าวความเชื่อว่าเป็นการตายโหง ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะกลัว จึงหารือกับทางญาติว่าจะรื้อทิ้ง ซึ่งก็ได้มาจุดธูปบอกดวงวิญญาณคนตายก่อน ส่วนตัวไม่คาดคิดว่า นายแอ๊ด จะคิดสั้นแบบนี้ขอให้ดวงวิญญาณทั้งคู่ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดมาฐานะร่ำรวยอยู่สุขสบายไม่ลำบากเหมือนชาตินี้
นางวินัย โพธิ์กลาง เพื่อนบ้านอีกคนก็ บอกว่า สองพ่อลูกน่าสงสารเพราะพ่อก็ป่วยทำงานหนักไม่ได้ ที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านคอยช่วยตามกำลังทั้งให้เงินไปโรงเรียน ช่วงที่โดนตัดน้ำก็แบ่งน้ำให้ใช้ แต่ไฟชาวบ้านเองก็เดือดร้อนจึงต่อให้ใช้ด้วยไม่ได้ เพราะปกติค่าไฟก็แพง ที่ผ่านมาตนเคยบอกนายแอ๊ดว่าจะขอลูกสาวไปดูแลส่งเสียให้เรียนเพราะตนไม่มีลูกสาว แต่นายแอ๊ด ไม่ยอมให้บอกว่าถ้าตายก็ตายพร้อมกัน เพราะเขารักลูกมาก แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะก่อเหตุแบบนี้ แต่ที่ผ่านมา นายแอ๊ด ยังพอทำงานได้จึงไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงาน ซึ่งไม่ใช่ความผิดของทางหน่วยงานเลย
ขณะที่ นางภาคินี ตั้งตรงเวชกิจ นายกเทศมนตรีตำบลหินเหล็กไฟ บอกว่า ที่ผ่านมาครอบครัวนี้ไม่เคยมาขอความช่วยเหลือจากผู้นำชุมชน เทศบาล หรือหน่วยงานรัฐเลย อาจจะคิดว่าตัวเองยังพอทำงานได้ จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุสลดขึ้นทุกคนก็ตกใจและเสียใจ ซึ่งหากทราบปัญหาก็คงไม่มีใครนิ่งนอนใจ โดยเฉพาะเทศบาลก็พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ยากลำบากอยู่แล้ว แต่เท่าที่สอบถามญาติของผู้ตายก็บอกว่าปัจจัยหลักก็เกิดจากความเครียดส่วนตัวของเขาเองด้วย ส่วนเรื่องงานศพก็พร้อมดูแลให้ทั้งหมด
นายสมศักดิ์ บุญมี ผอ.โรงเรียนบ้านสาวเอ้ บอกว่า สาเหตุที่พ่อตัดสินใจฆ่าลูกและผูกคอเสียชีวิตตายตามนั้น น่าจะเกิดจากความเครียดส่วนตัวและโรคประจำตัว ส่วนเรื่องสภาพความเป็นอยู่และค่าใช้จ่ายในบ้านก็เป็นอีกปัจจัยประกอบด้วย ส่วนตัวลูกสาวอยู่ที่โรงเรียนก็ดูเป็นเด็กร่าเริงไม่เคยแสดงออกว่ามีอาการซึมเศร้า การเรียนก็ปานกลางก็ทำกิจกรรมที่โรงเรียนตามปกติ ส่วนเรื่องทุนการศึกษาสำหรับเด็กยากจน น้องได้รับอยู่แล้วแต่อาจจะไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาครูก็ไปเยี่ยมบ้านติดตามความเป็นอยู่ทุกปี ก็ทราบปัญหาและหารือกับทางครอบครัว ซึ่งญาติเขาพยายามจะช่วยแบ่งเบาโดยย่าจะให้ทั้งสองคนไปอยู่ด้วย หรือจะเอาหลานไปช่วยเลี้ยง แต่ผู้เป็นพ่อไม่ยอมเมื่อเกิดปัญหารุมเร้ามากก็เกิดความเครียด ยืนยันว่าทางโรงเรียนและชุมชนไม่ได้ละเลย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าตัวด้วย เพราะที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อเองก็ไม่เคยไปขอความช่วยเหลือหรือปรึกษากับใคร แต่กลับตัดสินใจก่อเหตุสดลดขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนก็เสียใจและไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี