ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ร่วมกับ ตำรวจ ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อ.ภูสิงห์ ซุ่มจับรถขนไม้ประดู่ ได้ของกลางรถบรรทุก 2 คัน ไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 8 ท่อน มูลค่ากว่า 1 แสนบาท อุปกรณ์ตัดไม้ครบ ผู้ต้องหา 3 ราย
วันที่ 20 ส.ค.66 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พันเอก นิสิต สมานมิตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 มอบหมายให้ ร้อยตรี ณรงค์ฤทธิ์ โสชาลี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี นำกำลังทหาร สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอภูสิงห์ หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบชักลาก ขนย้ายไม้ประดู่ผ่านบริเวณถนนลูกรังด้านทิศเหนือบ้านธาตุ หมู่ 3 ต.ละลม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเข้าตรวจสอบดักซุ่มยังบริเวณที่ได้รับแจ้ง
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบรถยนต์บรรทุกต้องสงสัย 2 คัน วิ่งผ่านมายังจุดที่ซุ่มอยู่ โดยมีผ้าปกปิดอำพรางวัตถุที่อยู่ท้ายกระบะ จึงเรียกให้หยุดพร้อมแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อขอเข้าตรวจสอบ โดยผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวก็หยุดรถ แล้วลงจากรถเพื่อให้ตรวจสอบ ผลการตรวจสอบรถยนต์คันที่ 1 เป็นรถยนต์บรรทุก 4 ล้อกลาง สีฟ้า ยี่ห้ออีซูซุ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรวม 2 คน ทราบชื่อภายหลัง คือ นายพิชิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ และมี นายประ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาว อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้โดยสารนั่งมาด้วย ตรวจสอบกระบะท้ายรถพบไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 2 ท่อน และพบเลื่อยโซ่ยนต์ สีเขียว/ส้ม 1 เครื่อง และรอกขนาด 3 ตัน 1 ตัว
ส่วนรถคันที่ 2 เป็นรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ สีขาว ศรีสะเกษ มี นายสะเบ็ญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ ตรวจสอบท้ายรถพบมีไม้ประดู่ บรรทุกมาด้วย จำนวน 6 ท่อน รวมไม้ประดู่ จากรถทั้งสองคัน จำนวน 8 ท่อน ปริมาตรรวม 3.11 ลบ.ม. มูลค่าประมาณ 108,850 บาท และเมื่อตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้จำนวนดังกล่าว พบร่องรอยคล้ายถูกตัดทอนด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ในลักษณะใหม่สด สังเกตจากเปลือกและยางไม้ที่ยังแดงสดและเหนียวข้นอยู่ และไม่พบรูปรอยดวงตราค่าภาคหลวงและรอยตรารัฐบาลขาย หรือรอยตราใด ๆ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายป่าไม้ประทับไว้แต่อย่างใด และตรวจสอบที่เลื่อยโซ่ยนต์เครื่องดังกล่าวไม่พบรูปรอย หรือสติกเกอร์แสดงการอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์แต่อย่างใด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การอ้างว่า ได้ร่วมกันรับซื้อไม้มาจากชาวบ้าน ในราคา 10,000 บาท และได้ตัดไม้ดังกล่าวมาจากบริเวณป่าอ้อยด้านทิศใต้ บ้านโพธิ์คำ ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำไปแปรรูปส่งขายต่อให้กับนายทุน
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงาน สภ.ภูสิงห์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี