"อังค์ถัด" – "สกสว." ร่วมผลักดันบทบาทพลังสตรีสู่นักวิทยาศาสตร์ สร้างความเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนงานวิจัยนวัตกรรม
สำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ (อังค์ถัด) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ผนึกกำลังจัดการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพ 17 นักวิทยาศาสตร์สตรีจาก 9 ประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างบทบาทและภาวะผู้นำในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เมื่อวันที่ 7-12 สิงหาคมที่ผ่านมา
รองศาสตราจารย์ ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยถึงความพยายามในการลดช่องว่างระหว่างเพศว่า ยังคงมีความห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ตามหลักเกณฑ์ทั้งด้านขอบเขตของกิจกรรม เศรษฐกิจ การเมือง สุขภาพ และการศึกษา ซึ่งปีนี้มีความคืบหน้าจากปีที่แล้วเพียง 0.3% จากรายงานสถานการณ์ด้านความไม่เท่าเทียมทางเพศทั่วโลกปี 2023 ของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ชี้ว่าอาจจะใช้เวลามากกว่า 169 ปีในการสร้างความเท่าเทียมทางเพศในการมีส่วนร่วมในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ
เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดพบว่า 35% ของประชากรผู้หญิงสำเร็จการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ และจำนวนยิ่งน้อยลงเมื่อพูดถึงด้านการศึกษาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ โดยคิดเป็นเพียง 22% ของผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้านการพัฒนาและวิจัยปัญญาประดิษฐ์ 30% ของนักวิจัยทั่วโลก และมีเพียง 20% เท่านั้นที่เป็นหัวหน้านักวิจัยในสถาบันวิจัยต่างๆ ทั่วโลก และในบางประเทศ มีเพียง 5.3% ของผู้บริหารองค์กรระดับสูงเป็นเพศหญิง (Deloitte, 2019)
หลายงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าธุรกิจและสถาบันต่างๆ ที่มีสัดส่วนของผู้หญิงในระดับบริหารจัดการ และผู้บริหารระดับสูงจะมีผลสัมฤทธิ์ในการทำงานสูงกว่าถึง 25% ของผลเฉลี่ยด้านกำไร เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนที่มีผู้หญิงในสถานที่ทำงานน้อยกว่า (FinancesOnline Research 2022, Statista & US business surveys 2021) และในระดับผู้นำ ผู้หญิงจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้องค์กรตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรม และกลยุทธ์ที่มีความครอบคลุมมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ในระดับการวิจัยและพัฒนา ผู้หญิงสามารถพัฒนาปรับปรุงขอบเขตและคุณภาพของงานนวัตกรรมผ่านมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ มิติที่กว้างขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากเพื่อดึงศักยภาพออกมา ซึ่งในปัจจุบันนี้เราค่อนข้างมาถึงจุดที่ช่องว่างทางเพศเริ่มเข้ามาใกล้กันในด้านสิ่งประดิษฐ์ที่จดสิทธิบัตรภายในปี 2061(WIPO 2023) ซึ่งหมายความว่าสัดส่วนของนักประดิษฐ์หญิงที่ขอจดสิทธิบัตรในสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ทั่วโลกจะเท่ากับนักประดิษฐ์ชายภายในอีก 38 ปีข้างหน้า ซึ่งความร่วมมือระหว่างสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จะช่วยส่งเสริมให้ผู้หญิงประสบกับผลสำเร็จในการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ต้นแบบเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว
เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เป็นเป้าหมายหลักของประเทศไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังการยุติการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมุ่งเน้นให้มีการลงทุนจากรากฐานความหลากหลายทางชีวภาพและความร่ำรวยทางด้านวัฒนธรรม รวมถึงการสนับสนุนความยั่งยืนและครอบคลุมถึงโอกาสในด้านต่างๆ อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสในการแข่งขันทางด้านธุรกิจใน 4 อุตสาหกรรมหลัก อันได้แก่ เกษตรและอาหาร, ยาและสุขภาพ, พลังงานชีวภาพ วัสดุชีวภาพ ชีวเคมี, ด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นต้น
การฝึกภาคปฎิบัติอย่างเข้มข้น
ความร่วมมือระหว่างสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดให้การฝึกอบรมนักวิจัย และผู้ประกอบการสตรีจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ให้สามารถปรับตัวและประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวในประเทศของตนเองได้ โดยผู้เข้าร่วม 17 นักวิจัย ประกอบไปด้วยสมาชิกจาก อียิปต์อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ แทนซาเนีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจะต้องเข้าร่วมการฝึกอบรมเป็นเวลา 6 วัน ในกรุงเทพ
ซึ่งหลักสูตรประกอบไปด้วย การบรรยาย การประชุมเชิงปฏิบัติการ การเยี่ยมชมนอกสถานที่ของโครงการที่เกี่ยวกับ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการจัดทำโครงงานและการนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาผลงาน
นอกจากนี้ ผู้ร่วมสัมมนายังมีโอกาสเข้าเยี่ยมชม งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จัดโดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สังกัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้นักวิจัยเข้าใจถึงหลักการเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว และสามารถนำไปปรับใช้ในประเทศตนเองได้ อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระดับนานาชาติ และสร้างเครือข่าย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว แบ่งปันแนวคิด ประสบการณ์ในระดับโลกอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี