เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติพาเด็กหญิงวัย 16 ปีถูก 4 วัยรุ่นรุมโทรมจนเกิดความเครียดคิดสั้น กรีดแขนตัวเองเข้าพบ "ผกก.ห้วยแถลง" สอบถามความคืบหน้าของคดี ด้าน"ผกก."ยันพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีส่งอัยการพิจารณาแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอัยการ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการประกันตัวออกไปสู้คดี พร้อมส่งตำรวจเข้าไปเตือนครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหายแล้ว ลั่นหากไม่หยุดจะทำเรื่องขอถอนประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเด็กสาววัย 16 ปีชาวจังหวัดนครราชสีมา ถูกกลุ่มวัยรุ่น 4 คนรุมโทรมซึ่งคดีผ่านมากว่า 3 เดือนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า จนเด็กหญิงผู้เสียหายเกิดความเครียด คิดสั้น กรีดแขนตัวเอง บ่นไม่อยากอยู่แล้วว่า ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (30 ส.ค.66) เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ หรือ NRO ได้พาเด็กหญิงผู้เสียหายพร้อมแม่ของเด็กเดินทางไปที่ สภ.ห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา โดยได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผกก.สภ.ห้วยแถลง ที่ห้องทำงานเพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี

ทั้งนี้ พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผกก.สภ.ห้วยแถลง เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้นทางครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้แจ้งดำเนินคดีข้อกล่าวหากับ 4 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ โดยทางพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งเรื่องอัยการพิจารณาไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอัยการ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่าขณะนี้ได้มีการประกันตัวออกไปสู้คดี อย่างไรก็ตาม การที่มีข่าวว่าครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการพูดจาเสียดสีหรือข่มขู่ครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายนั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งหากทางครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหายังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าวทางตำรวจก็จะพิจารณาทำเรื่องขอถอนประกันตัวผู้ต้องหาต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนที่เด็กหญิงผู้เสียหายเรียนอยู่ถึงกรณีที่ทางโรงเรียนไม่อยากให้ครอบครัวเด็กหญิงเป็นข่าวดังเพราะกลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียนนั้น ทางผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนไม่ได้กลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนไม่อยากให้เป็นข่าวดังแพร่หลาย โดยเฉพาะการออกสื่อต่างๆ เพราะกังวลว่าข่าวที่ออกไปจะส่งผลกระทบกับตัวของเด็กหญิงผู้เสียหายเอง ทั้งกับกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนและสังคมภายนอก ซึ่งหลังเกิดเรื่องขึ้นทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวของเด็กทุกอย่าง โดยได้สอบถามความคืบหน้ากับทางครอบครัวเด็กเรื่อยมา ทั้งนี้ ทางโรงเรียนอยากให้กระบวนการทางกฎหมายลงโทษกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าทางโรงเรียนพร้อมให้ความช่วยเหลือตัวเด็กหญิงผู้เสียหาย และครอบครัวของเด็กอย่างดีที่สุด - 003