สมาคมชาวยโสธรและชมรมศิลปินและอาชีพสายบันเทิงจังหวัดยโสธรได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรขอให้มีการทบทวนการเปลี่ยนแปลงคำขวัญประจำจังหวัดยโสธรใหม่อีกรอบ หลังจากที่มีการเผยแพร่คำขวัญประจำจังหวัดยโสธรที่มีการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขใหม่ จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวจังหวัดยโสธร

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม 2566 นายวารินทร์  ทวีกันย์ เลขานุการสมาคมชาวยโสธรในนามตัวแทนสมาคมชาวยโสธร พร้อมด้วย นายอภิชาต  ดวงจันทร์ ประธานชมรมศิลปินและอาชีพสายบันเทิงจังหวัดยโสธร ได้เข้ายื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร โดยมี นายขันชัย  สีนอร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ เพื่อส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรขอให้มีการทบทวนการเปลี่ยนแปลงคำขวัญประจำจังหวัดยโสธรและเหตุใดจึงมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำขวัญประจำจังหวัดยโสธร ซึ่งถ้าหากมีการเปลี่ยนคำขวัญประจำจังหวัดใหม่ก็ควรที่จะให้ประชาชนชาวจังหวัดยโสธร หรือทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมบ้าง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความรู้สึก และทัศนคติในด้านลบของพี่น้องชาวยโสธรเป็นส่วนใหญ่ เพราะคำขวัญเดิมได้ใช้มาจนประชาชนโดยส่วนใหญ่ได้จดจำภาคภูมิใจ และมีความพึงพอใจในคำขวัญเดิมแล้ว

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพจเฟชบุ๊คของศูนย์วัฒนธรรมดิจิทัล จังหวัดยโสธร ได้เผยแพร่ คำขวัญของจังหวัดยโสธรที่มีการเปลี่ยนแปลง จากคำขวัญฯ เดิม คือ "ยโสธรเมืองบั้งไฟโก้ แตงโมหวาน หมอนขวานผ้าขิด แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ"ไปเป็น "หลวงพ่อพระสุกคู่บ้าน พระธาตุพระอานนท์คู่เมือง ลือเลื่องวิมานพญาแถน ดินแดนประเพณีบุญบั้งไฟ ร้อยมาลัยข้าวตอกงาม หมอนขวานผ้าขิด แหล่งผลิตเกษตรอินทรีย์" นั้น จนมีชาวจังหวัดยโสธรหลายคนทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเข้าไปโพสตอบโต้ต่างๆนานาจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปหลายแง่มุม

นายวารินทร์  ทวีกันย์ เลขานุการสมาคมชาวยโสธร กล่าวว่า ตนในนามสมาคมชาวยโสธรซึ่งเป็นสมาคมฯที่ได้ทำงานและขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆของจังหวัดยโสธรทั้งร่วมกับภาคเอกชนและส่วนราชการมาโดยตลอดจึงเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงคำขวัญประจำจังหวัดยโสธรในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความรู้สึก และทัศนคติในด้านลบของพี่น้องชาวยโสธรเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากคำขวัญเดิมได้ใช้มาจนประชาชนโดยส่วนใหญ่ได้จดจำภาคภูมิใจ และมีความพึงพอใจในคำขวัญเดิมแล้วดังนั้นเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความรู้สึก ตลอดจนทัศนคติในด้านลบของพี่น้องชาวยโสธรเป็นส่วนใหญ่ และมองว่าการเปลี่ยนแปลงคำขวัญประจำจังหวัดยโสธรในครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่รวมทั้งนักคิดนักเขียนและกวีชาวยโสธรที่มีชื่อเสียงไม่ได้มีส่วนร่วมจึงขอความอนุเคราะห์ทางจังหวัดยโสธร ได้กรุณาทบทวนการเปลี่ยนแปลงคำขวัญประจำจังหวัดยโสธรใหม่อีกครั้งด้วย

นายขันชัย สีนอร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร กล่าวว่า เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรติดภารกิจสำคัญจึงได้มอบหมายให้ตนมารับหนังสือแทนและหลังจากนี้ตนก็จะได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรให้รับทราบต่อไปส่วนผลการพิจารณาจะเป็นเช่นไรนั้นก็จะได้แจ้งให้กับพี่น้องชาวจังหวัดยโสธรทราบต่อไป.-008