ชาวเบตงวอนรัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการเปิดเส้นทางการบินสู่สนามบินเบตงอีกครั้ง ขณะที่อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง เผยสายการบิน แลนดาร์ช แอร์ไลน์ ให้ความสนใจเปิดทำการบินเส้นทาง หาดใหญ่ - เบตงในปีหน้า หลังมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
วันนี้ (6 ก.ย.66) ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงมีนักท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมท่าอากาศยานนานาชาติเบตงอย่างต่อเนื่อง พร้อมถ่ายรูปสถาปัตยกรรมของอาคารท่าอากาศยานนานาชาติเบตง และเช็คอินแลนด์มาร์กแห่งนี้ลงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งสนามบินเบตงได้เปิดให้บริการปกติและยังมีเที่ยวบินส่วนบุคคล-เช่าเหมาลำ ขึ้น-ลงต่อเนื่อง แม้สายการนกแอร์ได้ยุติทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตงแล้วก็ตาม เนื่องจากบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ประสบปัญหาขาดทุนในการให้บริการ ผู้โดยสารไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ อีกทั้งต้นทุนการปฏิบัติการบินค่อนข้างสูงและผ่านมากว่า 1 ปี จนถึงขนาดนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของสายการบินที่จะทำการบินสู่สนามบินเบตง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ชาวเบตงและนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่เรียกร้องหน่วยงานในพื้นที่ พร้อมวอนให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการจัดหาสายการบินมาบินสนามบินเบตงและเปิดทำการบินเส้นทางเบตง-กรุงเทพฯ, เบตง-หาดใหญ่ หรือเบตง-ปีนัง เพื่อฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยวให้สนามบินแห่งนี้ดำเนินกิจการต่อไปได้
น.ส.นพคุณ อ่อนโยนชัย หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินในแคมเปนเบตงหรอยแรง ซึ่งดำเนินการโดยสายการบินนกแอร์ เล่าว่า ตนเคยร่วมไฟล์ทบินของสายการบินนกแอร์ในวันแรก เบตง-ดอนเมือง ภายใต้แคมเปญ “เบตง บินตรง เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์” เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจัดเพียง 3 เดือนเท่านั้นในช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 ในราคาแพคเกจไป-กลับ 9,900 - 10,900 บาท หลังจากนั้นก็ไม่มีสายการบินเชิงพาณิชย์อื่นๆ มาทำการบิน หรือลงจอดที่สนามบินเบตงอีกเลย มีเพียงเครื่องบินส่วนตัวของเอกชน หรือเครื่องบินของทางราชการเท่านั้น แต่ก็จำนวนไม่มาก ซึ่งการเดินทางเบตงไปกรุงเทพฯ ระยะทางไกลและเดินทางลำบาก
เมื่อก่อนต้องนั่งรถส่วนตัวออกจากเมืองเบตงไปสนามบินหาดใหญ่ ใช้เวลาเกือบ 4-5 ชม.และนั่งเครื่องอีก 1 ชม.ครึ่งกว่าจะถึงกรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลานานมาก แต่พอได้ร่วมไฟล์ทบินปีที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง 2 ชม.ก็ถึงกรุงเทพฯแล้ว ตนจึงอยากให้หน่วยงานในพื้นที่ หรือรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หรือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เร่งดำเนินการ ให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับสายการบินเชิงพาณิชย์ที่จะทำการบินสู่สนามบินเบตง เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง ซึ่งชาวเบตงส่วนใหญ่ไม่ได้อยากมีแต่สนามบินที่ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเซลฟี่เท่านั้น แต่อยากให้มีเครื่องบินที่ใช้ได้จริง มีเที่ยวบินมาลงได้ด้วยและราคาย่อมเยาไป-กลับ 5,000 - 6,000 บาทไม่ใช่แตะหลักหมื่นกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ และหากกลับมาบินได้อีกครั้งจะเป้นการกระตุ้น รองรับการท่องเที่ยวในพื้นที่ สร้างโอกาส สร้างรายได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของสายการบินที่จะทำการบินมายังสนามบินเบตง ขณะนี้ได้มีสายการบิน แลนดาร์ช แอร์ไลน์ (Landarch Airlines) ที่ให้ความสนใจจะทำการบินจากหาดใหญ่ - เบตง ซึ่งขณะกำลังอยู่ในขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือน จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และมีแผนเริ่มให้บริการในประเทศไทยภายในปี 2567 ในช่วงแรกสายการบินมีแผนตั้งฐานการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ โดยระยะแรกดำเนินการ เปิด 3 เส้นทางบิน คือ หาดใหญ่-เบตง (ยะลา), หาดใหญ่-นราธิวาส และหาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี และครึ่งปีหลังกับเส้นทางหาดใหญ่-นครศรีธรรมราช, กระบี่, ภูเก็ต, ตรัง ก่อนที่จะขยายเครือข่ายการบินต่างประเทศสู่มาเลเซีย เป็นลำดับถัดไป สำหรับเครื่องบินที่จะนำมาให้บริการ เป็นเครื่องบินใบพัดแบบ Cessna 208B Grand Caravan Ex มีที่นั่ง 10-14 ที่นั่ง ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างการคมนาคมให้ครอบคลุม ความต้องการของผู้โดยสารภายในประเทศ อันจะทำให้เศรษฐกิจของภาคใต้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง กล่าวอีกว่า ณ ตอนนี้ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง ไม่ได้คาดหวังกับเส้นทางการบิน กรุงเทพฯ-เบตง แล้ว เพราะมีต้นทุนสูง จะทำให้ตั๋วเครื่องบินแพง ส่วนเรื่องการขยายรันเวย์สนามบิน ขนาด 1,800 เมตร และเตรียมจะขยายความยาวเป็น 2,500 เมตรนั้นยังไม่ผ่านทาง อีไอเอ ในเรื่องการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้ตีกลับ ตีกลับ ให้เพิ่มเติมรายละเอียด เรื่องเขตการบิน และสิ่งแวดล้อม อาทิ น้ำท่วม เป็นต้น และคงต้องใช้เวลาอีกนาน คาดจะเปิดให้บริการได้ ในปี 2571 จึงได้มีการหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และรองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ช่วยผลักดันให้มีเครื่องบินขนาดเล็ก บินจากหาดใหญ่-เบตง เนื่องจากยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และใช้เวลานานในการเดินทาง 4-5 ชม.จึงพร้อมที่จะนั่งเครื่องบินเล็กที่ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีก็ถึงเบตงแล้ว ในส่วนของสถิติของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่เดินทางยัง อ.เบตง จ.ยะลา ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค.2566 มีนักท่องเที่ยวราว 5 แสนคนและในส่วนครึ่งปีหลังคาดจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 1 ล้านคนโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้สูงอายุ เนื่องจากอำเภอเบตงมีอากาศดี อาหารเด่น เหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
สำหรับท่าอากาศยานเบตงเป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ล่าสุดลำดับที่ 29 ของ ของกรมท่าอากาศยาน ที่มีสโลแกนว่า “สวรรค์บนดิน สนามบินเบตง” ได้เริ่มก่อสร้างปี 59 วงเงินกว่า 1,900 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 62 มีความยาวรันเวย์ขนาด 1,800 เมตร และเตรียมจะขยายความยาวเป็น 2,500 เมตร เพิ่มขึ้น 700 เมตร โดยขยายไปทางทิศตะวันตก 375 เมตร และทางทิศตะวันออก 325 เมตร เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ 180 ที่นั่งได้ อาทิ แอร์บัส A320 และโบอิ้ง B-737 จากปัจจุบันรองรับได้เพียงเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง อาทิ Q400 และ ATR 72
นอกจากนี้จะขยายลานจอดอากาศยานจากเดิมที่มีขนาด 94×180 เมตร เป็นขนาด 94×240 เมตร ทำให้สามารถจอดอากาศยานขนาด 180 ที่นั่ง ได้พร้อมกัน 3 ลำ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 14 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าสนามบินแห่งนี้จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของอําเภอเบตงและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมุ่งหวังให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมรองรับตลาดการท่องเที่ยว และการพาณิชย์ เพื่อการลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศ และเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนแผนรองรับนักท่องเที่ยวระยะยาว ตามกรอบการพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อให้เมืองเบตงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค และก้าวสู่เมืองท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานทั้งในระดับอาเซียน และระดับสากล
สำหรับสนามบินเบตง จังหวัดยะลา เริ่มหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบในหลักการให้กรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี คือตั้งแต่ 2559 – 2561 เพื่อจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของอําเภอเบตงและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมุ่งหวังให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมรองรับตลาดการท่องเที่ยว และการพาณิชย์ เพื่อการลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี