ไฟเขียวจับตาย
‘หน่อง ท่าผา’ฆ่าตร.ทล.
หมายจับ‘กำนันนก’ลูกพี่
ผบ.ตร.ไฟเขียวจับตาย“หน่อง ท่าผา”รัวยิงตำรวจทางหลวงนครปฐมดับ หลังไม่พอใจที่กำนันดังลูกพี่ไม่ได้รับการตอบสนองย้ายคนสนิท ด้าน“บิ๊กโจ๊ก”ลงพื้นที่เคลียร์คดี ออกหมายจับ“กำนันนก”ลูกพี่มือปืน
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ร.ต.อ.บุญเลี้ยง วันสามง่าม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่าเมื่อช่วงกลางดึก ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงบาดเจ็บสาหัส 1 นาย
และเสียชีวิต 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม, ชุดสืบสวน สภ.นครปฐม เมื่อไปถึงพบผู้บาดเจ็บสาหัสชื่อ ว่าที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บช.ก. สภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าตามร่างกายรวม 7 นัด นอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีกรายชื่อ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.กก.2 บช.ก. ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่แขนซ้าย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ แพทย์ทำการผ่าตัดช่วยเหลือ
ต่อมา ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม พบมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์ จัดตั้งโต๊ะจีนรับประทานอาหารกัน โดยมีกลุ่มของกำนันรายหนึ่ง ได้เชิญกลุ่มของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาเลี้ยงสังสรรค์กัน เพื่อหวังรู้จักกันให้มากขึ้น ทางกลุ่มตำรวจก็ได้มาตามคำเชิญ
จากนั้น ได้เริ่มพูดคุยกันโดย กำนันขอโยกย้ายตำแหน่งให้กับคนสนิท ซึ่งอยู่ในสายงานเดียวกันกับ ว่าที่ พ.ต.ต.ศิวกร ผู้เสียชีวิต แต่กลับคุยตกลงกันไม่ได้ เพราะ ว่าที่ พ.ต.ต.ศิวกร อ้างว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบแบบแผน ประกอบกับเป็นคนตรงไปตรงมาด้วย ทำให้เกิดปากเสียงกับกำนันอย่างรุนแรง เนื่องจากทางกำนันไม่พอใจอย่างหนักแล้วลุกหนีออกจากโต๊ะทันที โดยที่กลุ่มของตำรวจยังคงนั่งอยู่โต๊ะเดิมไม่ได้ลุกออกไปไหน กระทั่งมีมือปืนเป็นชายรายหนึ่ง รูปร่างท้วมใหญ่ เดินเข้ามาที่โต๊ะของตำรวจแล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงแบบไม่ยั้ง ทำให้เกิดความชุลมุน ตำรวจทั้ง 2 นายล้มลง ส่วนมือปืนได้หลบหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ผู้ที่อยู่ในงานจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ พร้อมช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลทันที แต่ว่าที่ พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิตเนื่องจากถูกยิงเข้าตามลำตัวหลายนัด ภายหลังเกิดเหตุกำนันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน ขณะนี้ยังไม่มีใครพบตัว
เบื้องต้น ร.ต.อ.บุญเลี้ยงได้รวบรวมพยาน และสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ออกติดตามตัวมือปืนรายนี้มาดำเนินคดี ทราบว่ามือปืนรายนี้คือ “หน่อง ท่าผา” โดยในช่วงเช้าวันที่ 7 ก.ย.นี้ พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานยื่นศาลจังหวัดนครปฐม เพื่อขอหมายจับ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง อายุ 45 ปี มือปืนที่กระหน่ำยิงตำรวจตาย และศาลได้อนุมัติหมายจับในเวลาต่อมา
ด้านา พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืน โดยให้จัดกำลังปิดล้อมจุดต้องสังสัยใน จ.นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียงเพื่อกดดันติดตามตัวมือปืน และกำนันคนดัง
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.เปิดเผยว่า คนรายมีพฤติกรรมที่อุกอาจมากๆ ขนาดตำรวจยังกล้าลงมือทำขนาดนี้แล้วประชาชนจะได้รับความปลอดภัยได้อย่างไรจากแนวทางการสืบสวนพบว่าคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา และอาจจะมีปืนซ่อนอยู่ในจุดต่างๆในพื้นที่ด้วย จึงกำชับให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ ในส่วนของการขยายผลนั้น หากพบว่าใครเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือมีผู้จ้างวานหรือบงการเบื้องหลัง ตนสั่งการให้จัดการออกหมายจับดำเนินคดีทุกคนอย่างเด็ดขาดและเข้มงวดต่อไปไม่ให้รอดพ้นกฎหมายไปได้
สำหรับคดีดังกล่าว พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้รับทราบแล้ว สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมชุดหนุมาน และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เร่งรัดออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจรู้ตัวแล้ว พร้อมไล่ล่าติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หากขัดขืนพร้อมจะใช้มาตรการเด็ดขาดดำเนินการ
บ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อเร่งติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. โดยกระสุนเข้าตามร่างกาย รวม 7 นัด และได้เสียชีวิตลง โดยมีรายงานว่าจะมีการโอนคดีดังกล่าวให้ตำรวจกองปราบสะสางเอง
ทั้งนี้ จากการสืบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี เป็นลูกน้องของนายประวีณ หรือ (กำนักนก) กำนันดังเมืองนครปฐม
ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้าร่วมประชุมด้วย และให้สัมภาษณ์ ว่าไปรับฟังข้อมูล โดยเฉพาะประเด็นว่า ตำรวจเข้าไปในบ้านของกำนันทำไม มีการพูดคุยเรื่องขอตำแหน่งให้คนของกำนันจริงหรือไม่
“การที่กลุ่มนายตำรวจเข้าไปบ้านกำนันนั้นเข้าไปด้วยสาเหตุใด ยังต้องสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ให้ได้ตัวผู้ต้องหามาก่อน มีตำรวจมากกว่า 2 นายเข้าไปในบ้านกำนัน เบื้องต้นทราบว่าเป็นระดับ รองผู้กำกับ และสารวัตร ส่วนจะมีชั้นยศใดบ้างอยู่ที่การตรวจสอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่า ทำไมตำรวจในพื้นที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นคนร้ายฆ่าตำรวจได้ ดังนั้น ผู้กำกับพื้นที่ ผู้การ(ผู้บังคับการ) คุณอยู่กันอย่างไร ถึงได้กล้าทำกันขนาดนี้ ได้เหิมเกริมกันขนาดนี้ ผู้กำกับต้องพิจารณาตัวเอง ผู้การ ต้องดูตัวเองว่าบังคับบัญชากันอย่างไร ถึงกล้าเหิมเกริม กล้าพกปืนยิงในงานขนาดนี้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
เมื่อถามว่า ตำรวจเข้าไปบ้านกำนันอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า นี่ก็เป็นประเด็นเหมือนกัน ตำรวจมีมากกว่า 2 คน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวน ตอนนี้มือยิงยังอยู่ในพื้นที่ ยังไม่ไปไหนไกล ซึ่งทราบว่ามือยิงเคยมีประวัติมาก่อน ด้านกำนันคนดัง ตอนนี้หลบหนีไปด้วยยังไม่สามารถติดต่อได้ ต้องไปรับฟังข้อมูลจากท้องที่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมากน้อยขนาดไหน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน จ.นครปฐม ไม่มีซุ้มมือปืน หรือผู้มีอิทธิพลแล้ว แต่หากตำรวจท้องที่ไม่เข้มแข็ง ก็จะเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับ นายปวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” อายุ 35 ปี ชาวนครปฐม ที่ จ.469/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น…” หลังพบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับกรณีที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.1 บก.ทล.จนเสียชีวิตและ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.ได้รับบาดเจ็บสาหัส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี