‘อุปกิต’ขึ้นศาลไต่สวนฟ้องหมิ่น’รังสิมันต์ โรม’ สำนวนที่ 2 ยันความบริสุทธิ์ไม่เอี่ยวคดีฟอกเงิน"ตุน มิน ลัต"ยันไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ สว.คุ้มครอง หากอัยการเเจ้งข้อหาเพิ่ม ยินดีเข้าสู่กระบวนการศาล ศาลนัดอีกครั้ง 28 พ.ย.นี้
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ก.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์คดีที่ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในความผิดฐานหมิ่นประมาท กรณีเเถลงข่าวที่พรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้นายอุปกิต เดินทางมาไต่สวนด้วยตนเอง โดยมีกลุ่มประชาชนชาว จ.พระนครศรีอยุธยาเดินทางมาชูป้ายให้กำลังใจ
นายอุปกิต กล่าวว่า การเดินทางมาศาลวันนี้เพื่อยืนยันการใช้สิทธิตามกฎหมาย ปกป้องชื่อเสียง เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 หลังการยุบสภา และอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นายรังสิมันต์ ได้แถลงข่าวและโพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล กล่าวหาหมิ่นประมาทตนต่างๆนาๆ ทั้งที่ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ถือเป็นการกระทำผิดซ้ำ ตนจึงจำเป็นต้องฟ้องนายรังสิมันต์เป็นคดีที่ 2 ส่วนศาลจะพิจารณารับฟ้องหรือไม่ก็อยู่ที่กระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งในวันนี้นายรังสิมันต์ ไม่ได้เดินทางมา โดยแจ้งขอเลื่อนนัดอ้างว่า ทนายติดว่าความคดีอื่น โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องใหม่ไปเป็นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
“การอ้างความเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าสู่อำนาจการเมือง ไม่สนใจว่าจะทำลายใคร ซึ่งสำหรับผมคงไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายถูกกระทำ ขอพึ่งกระบวนการยุติธรรมในการต่อสู้ วันนี้ผมคิดว่า ประชาชนเข้าใจเบื้องหน้าเบื้องหลังของพรรคการเมืองพรรคนี้แล้ว” นายอุปกิตกล่าว
นายอุปกิต กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน เป็นคนละคดีกัน แต่พร้อมที่จะสู้ในกระบวนการยุติธรรมหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือสั่งฟ้อง ก็พร้อมจะสู้ในศาล โดยก่อนหน้านี้การเลื่อนสั่งคดี 4 ครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มาจากฝ่ายตน เเต่เป็นทางพนักงานอัยการเลื่อนฟังคำสั่งเอง ที่ผ่านมาตนไปรายงานตัวทุกครั้งแต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ครั้งสุดท้ายตนติดประชุมสภาก็เลยขอเลื่อน แต่ยังไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ว.แต่อย่างใดเพียงแต่ขอเลื่อนไปเท่านั้น ตอนนี้อัยการสูงสุดก็ยังไม่ได้สั่งฟ้องและตนไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ว.เพราะการใช้เอกสิทธิ์ ทางตำรวจหรืออัยการจะต้องทำเรื่องไปที่สภาฯเพื่อขอตัวตามรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ยังไม่มีถึงขั้นนั้น
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีการทำตามขั้นตอนมา ตนก็พร้อมจะไปรับทราบข้อกล่าวหา เพราะตนไม่เคยไปกระทำการใดตามที่นายรังสิมันต์ กล่าวหา แม้กระทั่งตอนเรื่องที่ตนโดน พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ขออนุมัติหมายจับ เป็นการกล่าวหา โดยปั้นหลักฐานเท็จ แปลข้อความเท็จเพื่อที่จะกล่าวหา กฏหมายต้องยุติธรรม ตนได้แถลงข่าวไปแล้วว่ามี 112 บริษัท ที่โอนเงินจากบัญชีที่อ้างว่า เป็นบัญชียาเสพติด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ๆ ทั้งนั้น ซึ่งมีการโอนเงินเข้ามาและไม่ได้โอนไปไหน แต่ของตนกลับโอนไปที่การไฟฟ้า ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจไม่ได้เก็บไว้ที่บริษัทเองเลย ก็เลยงงว่าคดีมันมาไกลขนาดนี้ได้อย่างไร
ทั้งนี้ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 นายอุปกิต ฟ้องนายรังสิตมันต์ ข้อหาหมิ่นประมาท โดยเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทมาแล้วคดีหนึ่ง และศาลมีคำสั่งรับฟ้องไปเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี