ไม่หยุดเหิม! แก๊งมอดไม้เปิดหน้าท้าทายรัฐบุกตัดต้นไม้ประดู่ป่าอายุกว่า 60 ปี 2 ต้น รอบนี้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้ของกลาง 7 ท่อน ขณะที่คนร้ายหลบหนี คาดเป็นฝีมือขบวนการมอดไม้เครือข่ายใหญ่ 4 จังหวัดอีสานตอนบน รับใบสั่งนายทุนจีน ตัดไม้พะยูงแต่ถูกกดดันเลยหันมาตัดต้นประดู่ป่าทดแทน ด้านชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาตัดไม้พะยูงตรวจสอบที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว อำเภอยางตลาดและคณะกรรมการสถานศึกษาแทบช็อค พบไม่มีไม้พะยูงเหลือสักท่อนเพิ่งรู้ถูกธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ขายทอดตลาดหมดเกลี้ยงแล้ว
วันที่ 13 ก.ย.666 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ สนธิกำลังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.4 (ภูพระ), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.5 (บัวขาว), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) พร้อมอาวุธครบมือออกปฏิบัติลาดตระเวนเฝ้าตรวจการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และสิ่งแวดล้อม บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล บ้านสร้างแก้ว หมู่ที่ 2 ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ พบขบวนการมอดไม้ไม่ทราบจำนวน กำลังก่อเหตุลักลอบตัดไม้ประดู่ป่า จึงแสดงตัวเข้าตรวจ คนร้ายไหวตัวทัน อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้
นายอดิสร คงสมกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ ซึ่งถูกตัดสองต้นอายุประมาณ 60 ปี เตรียมขนย้าย สภาพถูกหั่นออกเป็นท่อนรวม 7 ท่อน ปริมาตร 2.656 ลบ.ม.มูลค่าความเสียหายของรัฐ เป็นเงินจำนวน 92,650 บาท ฐานผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69 ฐานมีไม้ท่อนหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง เจ้าหน้าที่ได้นำไม้ของกลางที่ตรวจยึดไปลงบันทึกและร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากนั้นนำไม้ของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.4 (ภูพระ)
“ในช่วงที่ผ่านมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ทำการลาดตระเวน ตรวจตรา ป้องกันกลุ่มคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างเข้มข้น ส่งผลให้ขบวนการมอดไม้ หันไปตัดไม้ประดู่ป่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อชดเชยเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงไม่ได้ อย่างไรก็ตามจากการติดตามความเคลื่อนไหว เชื่อว่าเป็นขบวนค้าไม้ข้ามชาติ ที่ก่อเหตุแถวรอยต่อ จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังจะต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ได้แจ้งเบาะแสเข้ามา เพื่อช่วยกันสอดส่อง ดูแลรักษาทรัพยากรต้นไม้ หากพบบุคคลแปลกหน้า ต้องสงสัย หรือพบการก่อเหตุตัดไม้ทำลายป่า สามารถแจ้งเหตุมาได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 095-6616419 ทั้งนี้หากได้ตัวผู้กระทำผิดและคดีสิ้นสุด ยังมีรางวัลนำจับ ตามระเบียบของทางราชการให้กับผู้แจ้งเหตุอีกด้วย” นายอดิศร กล่าว
ด้านความคืบหน้ากรณีการตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาตัดไม้พะยูงในโรงเรียน พร้อมด้วยนายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) และฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานการตัดไม้พะยูงในโรงเรียน โดยนายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด มอบหมายนายอัมรินทร์ ถิตย์รัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทางโรงเรียนโดย น.ส.วรรณกานต์ สิมมา ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว และคณะครู บุคลากรโรงเรียน อำนวยความสะดวกและให้ข้อมูล
นายธวัชชัย กล่าวว่า การเข้ามาตรวจสอบครั้งนี้ ตามข้อร้องเรียนของชาวบ้าน และเครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้แจ้งมาที่ฝ่ายความมั่นคง ว่ามีกรณีของการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้วเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการตัดไปถึง 6 ต้น จากการตรวจสอบหลักฐานและเอกสาร แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีแรกทางโรงเรียนมีหนังสือรายงานการรื้อถอนและขนย้าย แจ้งส่งสำเนาซื้อขายไม้พะยูงถึง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อทำการตัดไม้พะยูงที่ยืนต้นตาย 4 ต้น เมื่อวันที่ 15 ส.ค.65 และกรณีที่สอง เกิดเหตุคนร้ายเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูง 2 ต้น เมื่อวันที่ 2 พ.ค.66 ที่ผ่านมา
โดยจากการตรวจสอบพบหลักฐานจำนวน 6 ตอ เป็นตอไม้พะยูงที่ตายซาก 3 ตอ มียอดเกิดขึ้นใหม่ 3 ตอ นอกจากนี้ยังพบหนังสือโต้ตอบระหว่างสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ กับ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 หนังสือลงวันที่ 27 มิ.ย.66 เรื่องอนุญาตให้จำหน่ายต้นไม้ ที่ได้จากที่ราชพัสดุเพื่อขายทอดตลาดจำนวน 17 ท่อนอีกด้วย ทั้งนี้ ยังได้ให้กำลังใจผู้อำนวยการโรงเรียน บุคลากร ครู นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาด้วย ซึ่ง เรื่องทั้งหมดสามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
น.ส.วรรณกานต์ สิมมา ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว กล่าวว่า เหตุการณ์เกี่ยวกับการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว ทั้งขออนุญาตตัดไม้พะยูงที่ยืนต้นตาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงล้มทับสิ่งปลูกสร้างและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน รวมทั้งการจัดการกับท่อนไม้พะยูง ที่เหลือจากการถูกคนร้ายเข้ามาลักลอบตัด ได้รับการอนุญาตจากผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เพราะจริงๆแล้วทั้งตน คณะครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ชาวบ้าน มีความรัก ความหวงแหน ต่อทรัพยากรต้นในไม้ในโรงเรียนทุกต้น ไม่เคยคิดที่จะขายไม้ในโรงเรียนเลย เพราะเราเป็นโรงเรียนอนุรักษ์ต้นไม้อยู่แล้ว
น.ส.วรรณกานต์กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียน ก็เชิญชวนทุกภาคส่วนในพื้นที่ ร่วมกันประกอบพิธีบวชต้นไม้พะยูง เพื่อเป็นกุศโลบายให้ทุกคนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ต้นไม้ รวมทั้งวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกป้องคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาลอบตัด อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่มีชื่อตนเป็นคณะกรรมการประเมินราคากลางขายทอดตลาดไม้พะยูงจำนวน 17 ท่อน ตามที่ปรากฏในเอกสารนั้น ก็เป็นไปตามระเบียบของ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้บริหารโรงเรียน ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขายทอดตลาดไม้พะยูง
ขณะที่นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพตอไม้พะยูง ที่ทางโรงเรียนระบุว่ายืนต้นตาย 4 ต้น และถูกลักลอบตัด 2 ต้น โดยเฉพาะตอที่ยืนต้นตายนั้น เป็นที่น่าสังเกตคือ เป็นไปได้ไหมที่ไม้พะยูง ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง จะยืนต้นตายพร้อมกันหรือในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 4 ต้น จากการวัดขนาดตอไม้พะยูง พบว่ามีขนาดรอบลำต้นขนาดใหญ่ 2 ตอ และขนาดกลาง 2 ตอ โดย 1 ใน 4 ตอมีลูกไม้หรือกิ่งไม้เกิดขึ้น ซึ่งลักษณะที่มีลูกไม้เกิดขึ้น สันนิษฐานเบื้องต้นไว้เลยว่าต้นไม้ดังกล่าวไม่ได้ยืนต้นตาย ทั้งนี้ เป็นจุดสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มุ่งจับผิดใคร
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นความสงสัย ยังพุ่งไปที่ไม้พะยูง 17 ท่อน ที่คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้วอยากทราบ เพราะเคยนำมาเก็บไว้ในห้องประชุม ปรากฏหลักฐานเป็นภาพถ่าย บันทึกจากมือถือ ระบุวันที่ 5 พ.ค.66 หลังเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดวันที่ 2 พ.ค.66 ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาทุกคน ยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องการขายทอดตลาดไม้พะยูงในโรงเรียนเลย
นายทองคำ เหมกุล กำนันตำบลอิตื้อ กล่าวว่า ตนและผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว ไม่เคยทราบว่ามีการขายไม้พะยูงในโรงเรียน ทราบแค่ว่ามีการขออนุญาตตัดไม้พะยูงที่ยืนต้นตาย และมีเหตุคนร้ายมาลักลอบตัด จากนั้นมีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง และเจ้าหน้าที่ธนารักษ์มาตรวจ ต่อมาตัดไม้พะยูงที่เหลือจากการลักขโมยเป็นท่อนๆ โดยนำมาเก็บรักษาไว้ในห้องประชุมนี้ แต่พอเข้ามาดูเท่านั้น ทุกคนต่างตกใจแทบช็อค เพราะไม้พะยูง 17 ท่อนที่เคยเก็บไว้ไม่เหลืออยู่เลย เพิ่งจะรู้ความจริงในวันนี้ว่าไม้พะยูงทั้งหมด ถูกธนารักษ์ขายทอดตลาดไปหมดแล้ว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี