14 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ หลังจากพล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด เหตุการณ์ภายในสำนักงานบ้านกำนันนก วันเกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวง ไปส่งมอบให้คณะทำงานชุดคลี่คลายคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยได้เปิดดูพร้อมกันกับตำรวจชุดคลี่คลายคดี ที่มุงดูและวิเคราะห์ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีรายงานว่า กล้องวงจรบริเวณสำนักงานกำนันนก มี 15 ตัว ติดตั้งบริเวณจัดงาน 13 ตัว โดยมี 2 ตัว บันทึกภาพภาพที่เห็นนาทียิง และพฤติการณ์ของคนที่อยู่ภายในงานหลังเกิดเหตุ มีการวิ่งหนีแตกกระเจิง

ขณะที่ช่วงเวลา 14.30 น. ตำรวจคุมตัว รปภ.ในบ้านกำนันนก ออกไปค้นที่เกิดเหตุ โดยมีรายงานว่า กล้องวงจรปิดที่อยู่ในงานเลี้ยงปาร์ตี้ได้ถูกกู้ไฟล์ภาพแล้วซึ่งพบหลักฐานว่า มี รปภ.ชาย ที่อยู่ประจำประตูหน้าโรงงานที่เกิดเหตุ ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าโรงงาน พบคืนเกิดเหตุ รปภ.รายนี้ อยู่ในงาน และช่วงที่ยิงสารวัตรนั้น รปภ.รายนี้ ถืออาวุธปืน เดินไปมาใกล้ๆกับกำนันนกเพื่ออารักขา

โดยเป็นชายเสื้อเขียว ที่สวมหมวกปิดใบหน้า ระหว่างการถูกคุมตัวในวันนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาทำการเก็บหลักฐานในวันนี้ 


ซึ่งปรากฏว่าในช่วงบ่ายตำรวจได้ทำการสอบปากคำเจ้าตัวให้การรับสารภาพ ว่าเป็นชายในภาพวงจรปิดจริง และที่ต้องถือปืนเดินตามกำนันนก ก็เพื่อดูแลความปลอดภัยและเป็นญาติกันกับกำนันนก

ล่าสุด พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาดำเนินคดี รปภ. ข้อหามีปืนไว้ในครอบครองได้ และครอบครองปืนผู้อื่นโดยมิชอบ มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 มีโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปีและปรับ 1,000 ถึง 10,000 บาท ไว้ก่อนหากพบความผิดเพิ่มจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาอีกต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามที่มาของอาวุธปืน แต่ รปภ.บ้านกำนันนก ไม่ตอบคำถาม แต่จากการสอบสวนทราบว่า ปืนดังกล่าวเป็นของสมาชิก อบต.รายหนึ่ง ซึ่งได้เรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว แต่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอสอบสวนที่มาว่าปืนกระบอกดังกล่าวไปอยู่กับ รปภ.บ้านกำนันนก ได้อย่างไร

ส่วนพฤติการณ์ที่ รปภ.คนดังกล่าวถือปืนในวันเกิดเหตุ อ้างว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงนำอาวุธปืนของตัวเองออกมาเพื่อป้องกันตัว