'บิ๊กโจ๊ก'เปิดภาพวงจรปิดคืนสังหารในงานปาร์ตี้บ้าน'กำนันนก' พบตร.แค่ 5 นายเท่านั้นที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เหลือให้การเท็จ เผยตำรวจผู้ใหญ่พกปืนไปด้วย แต่พอเกิดเรื่องกลับเผ่นแน่บหมด แฉจากภาพในกล้องเหมือนรู้ว่าวันนี้อาจมีเรื่อง มีการเคลียร์เอาคนแก่ออกไปก่อนและจัดเตรียมรถเพื่อเปิดทางหนีก่อนยิง ส่วน'กำนันนก'ได้ออกมาคุยกับ'หน่อง'ก่อนพ.ต.ต.ศิวกร 'ย้ำพยานหลักฐานแน่นไม่รอดแน่ ส่วนเหตุขัดแย้งมาจากการทำงานที่ตรงไปตรงมาที่ขัดแย้งเรื้อรังมานาน
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 15 ก.ย.66 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขจัดพาล รอง ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าการสอบปากคำและการกู้ไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ยิงพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ "สารวัตรศิว"ภายในงานเลี้ยงบ้าน "กำนันนก" จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ พล.ต.สุรเชษฐ์ ได้เปิดภาพวงจรปิดบางส่วนในงานเลี้ยง หลังเกิดเหตุยิง"สารวัตรศิว" โดยภาพบางส่วนชี้ว่า มีตำรวจเพียง 5 นายเท่านั้นที่เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ นอกจากนั้นไม่ได้ให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด แม้ก่อนหน้านี้จะอ้างว่าได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ถือว่าให้การเท็จ และต้องถูกดำเนินคดี
ส่วนเรื่องกล้อง ที่เหลืออีก 2 ตัวใน 15 ตัว ที่คาดว่ามีมุมกล้องที่จะยืนยันเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนขณะเกิดเหตุ ปรากฏว่ากล้องตัวหนึ่งไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนอีกตัวเป็นกล้องที่ กำนันนกได้ปิดสวิตช์ไปตั้งแต่เวลา 10.16 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งนี้ ภาพวงจรปิดส่วนใหญ่จะบ่งชี้ในประเด็นเรื่องของผู้ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กับผู้ที่พกปืนเข้าไปในงานเลี้ยงทั้งตำรวจและพลเรือน โดยเฉพาะตำรวจผู้ใหญ่พอเกิดเรื่องเผ่นหนีหมด ไม่ได้เข้าไปช่วยเลย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงข่าวโดยมีการอธิบายควบคู่ไปกับการเปิดภาพกล้องวงจรปิดด้วย ว่า จะเห็นว่ามีตำรวจ 5 นายให้การช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว คือดต.สราวุธ ดต.ชนาณัฐ จสต.ทศพล แซ่อึ้ง จสต.เมทิศกร พันธ์ศรีจันทร์ ช่วยกันนำรถนำมาเพื่อนำพ.ต.ต.ศิวกร ที่เดินมาแล้วล้มลง พ.ต.ต.ณรงค์ เข้าไปช่วยและขึ้น ไปนั่งคู่พ.ต.ต.ศิวกร ตอนหลังกระบะ แต่ในภาพกล้องวงจรปิดไม่ปรากฏภาพของผู้กำกับ สน.พญาไท แต่อย่างใด
โดยภาพในวันเกิดเหตุ จากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นนายต๋องนำปืนซิกซาวเวอร์ มาส่งให้นายเด้ง นำเข้าไปในบ้านกำนัน และก็จะเห็น นายหน่อง พกปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เบื้องต้นคิดว่าลูกน้องของกำนันรู้ว่าสารวัตรศิวกรไม่ถูกกับกำนันจึงได้มีการเตรียมปืนมาไว้ ส่วนตำรวจที่ให้ข้อมูลว่าไม่ได้มีการพกปืนนั้นไม่เป็นความจริงเพราะจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า ก็มีตำรวจไม่ใส่เสื้อเหน็บปืนที่เอวด้านหลัง และตำรวจแต่งกายเครื่องแบบครึ่งท่อน 1 คน ที่พกปืนเช่นกัน
ส่วนกล้อง 2 ตัวที่เข้าใจว่ามีผู้ทำให้เสียหายดึงปลั๊ก หรือตัดสายนั้น ปรากฏว่า 1 ตัวได้ปิดตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม และอีก 1 ตัวกำนันนก ได้ทำการปิดสวิตซ์ กล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 10.16 น. วันเกิดเหตุ ซึ่งกล้องทั้ง 2 ตัวเป็นกล้องที่ส่องลงมายังโต๊ะกลาง ทั้งนี้คาดว่าที่กำนันนกปิด อาจจะเนื่องมาจากเป็นโต๊ะที่มีนายตำรวจ ระดับใหญ่นั่งกันอยู่ เพื่อไม่ให้เห็นว่ามีใครบ้าง แล้วเวลากินเหล้าก็กินกันหนักถอดเสื้อกระโดดน้ำ
ต่อข้อถามว่าอาจมีการตระเตรียม การไว้ก่อนนั้น พล.ต.สุรเชษฐ์ อธิบายว่า จากภาพในกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าเหมือนรู้ว่าวันนี้อาจมีเรื่อง และก่อนที่จะเกิดเหตุยิงกันได้มีการเคลียร์เอาคนแก่ออกไปก่อนแลจัดเตรียมรถเพื่อเปิดทางหนี ส่วนกำนันนกได้ออกมาคุยกับนายหน่องก่อนที่จะมีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร ดังนั้น จากพยานหลักฐาน ไม่รอด
สำหรับสาเหตุ มาจากประเด็นหลักพ.ต.ต.ศิวกร เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดตั้งแต่มาทำหน้าที่สว.ทล.ขณะที่กำนันนกประกอบธุรกิจรถบรรทุกจำนวน ร้อยคัน เพิ่งได้รับผลกระทบ บรรทุกน้ำหนักเกินไม่ได้ เป็นความขัดแย้งเรื้อรังกันมา นอกจากนี้มีพยานในงาน บอกว่าขอให้ลูกน้องทำงานย้ายไปสายงาน จย.สายตรวจไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ลุแก่อำนาจสั่งยิง
พล.ต.อ.เอกสุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่มีการเบลอภาพบุคคลในกล้องวงจรปิด ซึ่งจะมีภาพของแสงไฟที่มากระทบ แต่ก็ได้มีการไล่ดูทุกคนแล้วว่าใครเป็นใครบ้าง อะไรก็ตามไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ลึกลงไป เพราะจะมีผลต่อการทำงานยากในการทำสำนวนของตำรวจ เพราะจะเป็นข้อมูลทนายอีกฝ่าย
"โดยที่โดยผู้ที่มาในงานเกิน 50% รู้ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง กำนันนกกับพ.ต.ตศิวกร และหลังเกิดเหตุนายตำรวจใหญ่ต่างเผ่นหนีกันแน่บหมด ที่บอกว่าไปช่วยเขาก็ไม่ได้ช่วย เป็นเรื่องที่ย่ำแย่มาก สรุปว่าตอนนี้มีข้อมูลหลักฐานที่จะเอาผิดกำนันนกได้อย่างแน่นอน"รอง ผบ.ตร.กล่าว
ขอบคุณภาพจาก Thai PBS
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี