เพื่อนประถม‘เอ็ม’ฆ่าโบกปูนลูก 2 ขวบ เผยเป็นคนก้าวร้าวมาตั้งแต่เล็ก ถึงขั้นท้าเตะท้าต่อยกับครูอาจารย์ ไม่แปลกใจเลยที่ลงมือเหี้ยมได้แบบนี้ ส่วน‘น้าชาย’เผยกลับมาบ้านล่าสุดช่วงเดือน เม.ย. พาลูกวัย 2 ขวบมาด้วย เห็นเต็มตาว่าไม่ชอบเสียงร้องเด็ก พยายามจะใช้มือตบ และข่มขู่ว่า‘เดี๋ยวกูตบตาย’ ขณะที่พ่อปิดตัวเงียบ ตามหาที่บ้าน 2 หลังกลับไม่มีคนอยู่
21 กันยายน 2566 ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หลายจุดที่คาดว่าจะเป็นบ้านเกิดและบ้านญาติของนายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม พ่อที่ก่อเหตุฆ่าโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านของบิดานายส่องศักดิ์ ในพื้นที่ ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ที่อาศัยอยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน เป็นจุดแรกแต่ไม่พบใครบ้านปิดล็อกประตูรั้วสนิท จึงออกเดินทางไปที่บ้านเดิมพื้นเพเดิมของบิดานายส่องศักดิ์ และบ้านเกิดของนายส่องศักดิ์ ซึ่งอยู่ที่ ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด จ. ตรัง พบว่า เป็นบ้านปูน 2 ชั้น ปิดล็อกประตูแน่นสนิท และไม่พบใครผู้ใดอยู่อาศัย ผู้สื่อข่าวจึงได้เรียกแต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา
จากนั้นเข้าไปที่ร้านตัดผม ซึ่งอยู่ห่างกับบ้านหลังดังกล่าวไม่มากนัก ได้สอบถามนายเชือน อายุ 56 ปี น้าชายของเอ็ม เล่าว่า เอ็มมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ เอ็มกลับมาบ้านใน ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด ล่าสุด เมื่อช่วงเดือน เม.ย.66 ที่ผ่านมา โดยได้พาลูกสาวคือน้องโมเดล วัย 2 ขวบ ที่เอ็มได้ฆ่าโบกปูนเสียชีวิตล่าสุดกลับมาบ้านด้วย ซึ่งกลับมาทุกครั้งก็จะชอบซื้อเหล้าซื้อเบียร์และอาหารต่างๆมาเลี้ยงเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง
“แต่ในจังหวะที่ตนนั่งอยู่ด้วยนั้น เมื่อน้องโมเดลซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ร้อง เอ็มจะไม่ชอบเสียงร้องเด็กเลย จะใช้มือปรี่จะเข้าไปตบ แต่ยังไม่ทันได้ตบ เด็กกลัวและเงียบทันที เหมือนกับว่าเด็กกลัวไปแล้ว และพูดกับเด็กว่า “มึงเงียบนะ มึงนิ่งนะ เดี๋ยวกูตบตาย” ที่ผ่านมาเอ็มก็จะทะเลาะกับพ่อบ่อย และเคยใช้มือแทงล้อรถพ่อ และอีกหลายๆเรื่องถึงขั้นตัดขาดพ่อลูกกัน ส่วนกับเพื่อนๆหากพูดไม่เข้าหูหรือไม่ถูกใจก็จะชวนทะเลาะและใช้กำลัง หลังจากเห็นเอ็มเป็นข่าวฆ่าลูก บอกตรงๆเลยว่าไม่ชอบและรับไม่ได้เลย” นายเชือน กล่าว
ด้านนายวิระศักดิ์ อายุ 48 ปี เพื่อนรุ่นพี่ เล่าว่า เอ็มชื่อเดิมคือนายนพดล ตนรู้จักกับเอ็มและเติบโตเรียนประถมมาด้วยกัน โดยที่เอ็มเป็นรุ่นน้องประมาณ 3 ปี ตนอยู่ ป.4 เอ็มอยู่ ป.1 เดิมเป็นคนดี ยังไม่มีอาการอะไรบ่งบอก แต่หลังจากที่ตนจบชั้นประถมมา ปรากฏว่าเอ็มซึ่งตอนนั้นยังเรียนประถมอยู่ จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนฝูงในโรงเรียนบ่อยครั้งและเยอะมาก และบางครั้งเคยทะเลาะเบาะแว้งกับครูอาจารย์ที่สอนด้วย มีการท้าเตะ ท้าต่อยกับครูอาจารย์เสมอ และภายหลังจากเอ็มอายุประมาณ 16-17 ปี ก็ไม่ค่อยจะได้ติดต่อกันเท่าไรนัก เพราะเอ็มไปอยู่ข้างนอกแล้ว แต่ทราบข่าวในทางที่ไม่ดีของเอ็มตลอด ทั้งทะเลาะกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จนอาศัยอยู่บ้านด้วยกันไม่ได้ เอ็มจึงออกไปอยู่ข้างนอก สาเหตุหนึ่งก็เพราะพ่อไล่ออกจากบ้าน จนมาทราบข่าวก็ที่เกิดเหตุล่าสุดนี้
“เมื่อมาทราบข่าวว่าเอ็มฆ่าลูก ตนไม่แปลกใจเลย เพราะนิสัยดั้งเดิมของเอ็มเป็นคนก้าวร้าวอยู่แล้ว ยอมรับว่าตอนเด็กเอ็มก้าวร้าวไม่มากเท่าไร แต่มองว่านิสัยพวกนี้จะเพิ่มขึ้นและหนักเรื่อยๆรุนแรงขึ้นตามอายุ ส่วนประเด็นที่ว่าเอ็มจะไม่ชอบเด็กผู้ชายผู้หญิงนั้นตอนเด็กๆไม่มี อาจจะเป็นหลังจากเอ็มมีลูกแล้ว และอาจจะไม่สบอารมณ์กับเด็ก แม้แต่พ่อก็เอาเอ็มไม่อยู่ หัวรุนแรง หากโกรธใคร ก็จะอาฆาตแค้น ไม่นึกว่าเอ็มจะก่อเหตุเช่นนี้ได้ ปกติมนุษย์และสัตว์เขาไม่ทำกัน จิตเกินคนไปแล้ว มองว่าไม่ใช้โรคจิต แต่มาจากสันดาน น่ากลัวมาก อยู่ใกล้ใครก็อันตราย อยากให้ดำเนินคดีให้หนัก เพราะออกมาก็คิดว่ายังคงทำแบบนี้อีก” นายวิระศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทราบว่า พ่อของเอ็มมีภรรยาจำนวน 2 คน คนแรกคือแม่ของเอ็ม มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยเอ็มเป็นลูกคนโต ส่วนพ่อของเอ็มหลังจากที่ภรรยาคนแรกคือแม่ของเอ็มเสียชีวิตก็ได้ไปมีภรรยาใหม่อยู่ที่ อ.เมืองตรัง แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านระบุว่าทั้งพ่อของเอ็ม และบรรดาพี่น้องทุกคน เป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม ไม่เคยมีปัญหาหรือนิสัยก้าวร้าว ส่วนพ่อจะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมและเป็นจิตอาสาเพื่อสังคมมาโดยตลอด........-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี