กระดูก "สารวัตรแบงค์" ถึงวัดบ้านเกิดนครพนมแล้ว แม่บอก "ลูกอยู่กับหลวงพ่อ" ชำระใจไม่อาฆาตใคร อโหสิกรรมให้ทุกคน ด้านคดีมั่นใจฝีมือสอบสวนกลาง
มีความคืบหน้ากรณี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ หรือเพื่อนตำรวจจะเรียกว่า "สารวัตรศิว" อายุ 32 ปี นายตำรวจประจำสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่ถูกนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิทของ "กำนันนก" นายประวีณ จันทร์คล้าย กำนันตำบลตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ใช้อาวุธปืนยิง 7 นัดซ้อนกลางงานเลี้ยงที่บ้านของกำนันนก ก่อนจะถูกเพื่อนตำรวจนำส่ง รพ.นครพนม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดในคืนของวันที่ 6 กันยายน 2566 โดยสารวัตรแบงค์ได้รับพระราชทานเพลิงศพ ที่วัดพระมหาธาตุ บางเขน กทม.เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติๆ และเพื่อนตำรวจทุกเหล่าที่มาร่วมส่งวิญญาณ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดวันที่ 26 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 09.45 น. เรืออากาศโท ศิลนา สายบัว และนางทัศนัย สายบัว บิดามารดาของสารวัตรแบงค์ พร้อมญาติเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารจากสนามบินดอนเมือง มายังวัดสว่างสุวรรณาราม ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 (นครพนม-บ้านแพง) ชุมชนวัดสว่างฯ หน้าสวนหลวง ร.9 เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อนำอัฐิและเถ้าอังคารของลูกชายไปเก็บไว้ยังศาลาการเปรียญหลังใหม่ เพื่อรอครบ 100 วัน ประมาณปลายเดือนธันวาคม 2566 ก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศล และประกอบพิธีลอยอังคารในแม่น้ำโขงตามลำดับ
ในการนี้พระราชสิริวัฒน์ หรือเจ้าคุณเพชร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดสว่างฯ และเป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทสารวัตรแบงค์ ก่อนเข้ารับราชการบรรจุเป็นตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ต่อมาได้ย้ายไปเป็นตำรวจทางหลวง กระทั่งถูกยิงเสียชีวิต โดยเจ้าคุณเพชร เป็นผู้นำกล่าวอัญเชิญเทวดาทุกชั้น ร่วมรับทราบในการนำกระดูกของสารวัตรกลับคืนสู่บ้านเกิด พร้อมนำกล่าวอโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ในขณะเดียวกันขอให้ความดีที่สารวัตรแบงค์ได้ทำไว้ในชาตินี้ ส่งผลให้มีความสุขในภพภูมิที่ดี
หลังเสร็จพิธี นางทัศนัย สายบัว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุผลที่นำกระดูกของลูกชายมาไว้ที่วัดบ้านเกิด จ.นครพนม เพื่อรอทำบุญครบ 100 วันในการเสียชีวิตว่า สารวัตรแบงค์ เกิดที่ รพ.นครพนม เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2534 จึงมีความผูกพันกับคุณยายมากและเข้าเรียนชั้นอนุบาล 1-3 ที่โรงเรียนเทศบาล 1 ชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งตนในขณะนั้นทำงานอยู่เทศบาลเมืองนครพนม ส่วนคุณพ่อรับราชการทหารอากาศ พื้นเพเป็นชาวจังหวัดจันทบุรี ภายหลังคุณพ่อย้ายไปรับราชการที่ กทม.ก็ได้ปรึกษากันว่าควรนำลูกชายไปเรียนชั้นประถมที่กรุงเทพฯด้วย เพราะเขาเป็นเด็กเรียนเก่ง ต่อมาตนก็ได้ย้ายตามไปอยู่กับครอบครัว แต่สารวัตรแบงค์ จะไม่ทิ้งบ้านเกิด จึงไปๆ มาๆ ระหว่าง กทม.-นครพนม สม่ำเสมอ อีกอย่างตอนสารวัตรแบงค์ตอนเล็กๆ เป็นเด็กงอแง จึงนำไปมอบให้เป็นลูกพระธาตุพนมตามคติความเชื่อ
กระทั่งอายุครบอุปสมบทก็ได้มาบวชอยู่กับเจ้าคุณเพชร เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณราม แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยบวชเป็นสามเณรมาก่อนแล้ว จึงมีความผูกพันกับเจ้าคุณเพชรตั้งแต่นั้นมา อีกทั้งตนกับท่านเจ้าคุณเพชรเป็นเพื่อนเรียนหนังสือมาด้วยกัน จึงไว้วางใจที่จะฝากลูกชายให้ท่านใช้ธรรมะเสริมสร้างจิตใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการตำรวจ
"เมื่อนำกระดูกสารวัตรแบงค์มาไว้ที่นครพนมแล้ว คุณแม่ก็จะมาหาเขาทุกสัปดาห์ หรือสองสัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อร่วมทำบุญกับญาติพี่น้อง และจะพูดคุยกับเขา แม้อยู่กรุงเทพฯก็ทำบุญตลอด แต่ที่นี่มีกระดูกลูกชายอยู่ แม่จะต้องมาหาเขาทุกอาทิตย์ก็ว่าได้ฯ" นางทัศนัย สายบัว กล่าว
เมื่อถามถึงด้านคดี นางทัศนัย ตอบอย่างมั่นใจว่า มีความเชื่อมั่นฝีมือของตำรวจสอบสวนกลางมากที่สุด โดยเฉพาะ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง แม่เรียกร้องหาท่านตั้งแต่วันแรกที่ลูกโดนยิง ท่านขณะนั้นไปต่างประเทศ ยังมีความห่วงใยโทรศัพท์สอบถามและสั่งงานลูกน้องตลอดเวลา ทำให้เรามีความมั่นใจในคดีนี้ ยิ่งโอนคดีมาอยู่สอบสวนกลาง ยิ่งเพิ่มมั่นใจเป็นอย่างมาก ไม่กังวลหรือสงสัยอะไรทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องการฟ้องร้องเยียวยา นางทัศนัยบอกยังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่เรียกร้องเท่าไหร่ มันก็ไม่คุ้มกับชีวิตของลูก ทุกวันนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ "เมื่อเช้านี้ก่อนขึ้นเครื่องบอกกับลูกว่า แบงค์แม่จะพาลูกไปอยู่กับหลวงพ่อที่นครพนมนะ ดวงจิตดวงวิญญาณอยู่ตรงไหนก็ไปกับแม่ เพราะไปอยู่กับหลวงพ่อจะได้ชะล้างจิตใจไม่ให้มีอาฆาตพยาบาท เพราะแม่ได้อโหสิกรรมตั้งแต่ลูกชายของแม่สิ้นลมหายใจ แต่ว่ากฎแห่งกรรมก็ต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับในส่วนนั้น"
นอกจากนี้ นางทัศนัย สายบัว ได้ยกมือไหว้ขอบคุณชาวนครพนม ที่ต่างส่งกำลังใจให้กับตน ว่า “กราบขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวนครพนมทุกคน ที่ให้กำลังใจศรัทธาในตัวลูกของแม่ ขอบคุณมากค่ะ” โดยขณะที่นางทัศนัยให้สัมภาษณ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ จะมีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี