'กรมควบคุมโรค'ชวนคนไทยใส่ใจ'อาหารเจ' หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด มันจัด เค็มจัด ลดโอกาสเกิดโรค  

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2566 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เทศกาลถือศีลกินเจ เป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายจีนที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณโดยในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-23 ต.ค. 2566 ประชาชนที่ถือศีลกินเจจะงดการรับประทานเนื้อสัตว์ รวมไปถึงพืชผักที่มีกลิ่นฉุน เลือกรับประทานผักผลไม้ และรักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตและยังเป็นการรักษาสุขภาพ เนื่องจากการรับประทาน พืช ผัก ผลไม้ และธัญพืช ส่งผลดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายปรับตัวอยู่ในภาวะสมดุลเพราะเกิดการขับพิษและของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบย่อยอาหารจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สุขภาพดีขึ้น ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารช่วงเทศกาลถือศีลกินเจเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนทุกคนควรทราบเพื่อให้ได้บุญ สุขภาพที่ดี และได้รับสารอาหารและประโยชน์ครบถ้วน ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็น หวานจัด มันจัด เค็มจัด ที่มักจะได้จากการปรุงอาหาร ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อ

ด้านนพ.ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากต้องการรับประทานอาหารเจให้ได้ประโยชน์กับร่างกายอย่างแท้จริง ประชาชนต้องใส่ใจการเลือกรับประทานอาหารเจให้มากขึ้น โดยเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีความหลากหลายของชนิดอาหาร และถูกหลักโภชนาการ เน้นอาหารที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ เช่น ธัญพืช เต้าหู้ ถั่ว และเพิ่มวิตามินบี 12 เนื่องจากการบริโภคอาหารเจในระยะยาวมีโอกาสขาดวิตามินนี้ได้ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น หวานจัด มันจัด เค็มจัด การทานอาหารรสเค็ม จะมีปริมาณของโซเดียมสูงหากทานมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมถึงการล้าง   ผักสดด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งก่อนบริโภคเพื่อลดสารพิษตกค้าง เลือกรับประทานผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมมีรสชาติไม่หวานจัด เลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปที่สะอาดและได้มาตรฐาน เช่น ร้านที่ผู้ขายสวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม ใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหาร ภาชนะบรรจุอาหารสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเจสำเร็จรูปในภาชนะบรรจุพร้อมจำหน่าย ต้องมีฉลากถูกต้อง มีคุณค่าทางโภชนาการผ่านเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 

ด้านนพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูงควรลดการบริโภคอาหารผัดหรือทอดเพราะหากบริโภคบ่อยครั้งจะทำให้น้ำหนักตัวเกินหรือมีภาวะไขมันในเลือดสูงได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรบริโภคกลุ่มคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งให้พอเหมาะ หากบริโภคมากเกินพอดีอาจทำให้ไขมันและน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ต้องจำกัดผักใบเขียว และผลไม้บางชนิดที่มีค่าโพแทสเซียมสูง หรือถั่วเหลือง ธัญพืชบางกลุ่มและจำกัดเครื่องปรุงโซเดียมสูง รวมถึงผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคอ้วนควรควบคุมการรับประทานอาหารเจ และออกกำลังกายเพื่อช่วย  การเผาผลาญแป้งและน้ำตาลที่รับประทานมากขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ ---017