เครือข่ายกัญชาฯ ยื่นหนังสือต่อรัฐสภา- สธ. “นพ.ชลน่าน” ย้ำช่อดอกไม่ใช่ยาเสพติด รอยกร่างกฎหมายชัดเจน เชื่อไม่ช้า ด้าน “ประสิทธิ์ชัย” วอนประชาชนจับตา และร่วมกันผลักดันเพื่อให้ได้ร่างกฎหมายกัญชาอย่างเป็นธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2566 นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายเดินทางเข้ายื่น ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ณ อาคารรัฐสภา จากนั้นในช่วงบ่ายได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้กำหนดกฎหมายกัญชาจากข้อมูลรอบด้าน โดย นพ.ชลน่าน เข้ารับหนังสือด้วยตนเอง และได้เชิญ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รักษาราชการแทนรองปลัด สธ. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และนพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมฯ เข้าหารือกันเป็นการส่วนตัวประมาณ 30 นาที
นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ทางเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย มานำเสนอข้อมูลกับทางกระทรวงสาธารณสุข โดยชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ โดยไม่ได้ต่อต้านใดๆ และมีข้อเสนอ 2 เรื่อง คือ 1. สถานะของกัญชา ขอให้ชัดเจนว่า เป็นยาเสพติดหรือไม่ 2.เมื่อมีสถานะชัดแล้ว เรื่องของการควบคุม หรือกำกับดูแลในการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ขอให้ชัดเจน และนอกนั้นก็มีประเด็นปลีกย่อย เช่น การอนุมัติ การนำมาใช้ การสวมสิทธิ์ เป็นต้น
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า กัญชาจะเป็นยาเสพติดเมื่อเป็นสารสกัด ต้องมีค่า THC มากกว่า 0.2 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ถึงจะเป็นยาเสพติด นอกเหนือจากนี้ไม่ว่าต้น ราก ดอก ใบ ไม่ได้ถูกกำหนดจึงไม่ถือว่าเป็น ส่วนจะกำหนดอย่างอื่นว่าจะเป็นยาเสพติดหรือไม่นั้น ยังอยู่ในการพิจารณาว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ ทั้งด้านมิติสุขภาพ มิติเชิงสังคม การบังคับใช้กฎหมายต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน และไม่มีข้อเสนอว่า จะต้องเอาช่อดอกกลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งขณะนี้คณะทำงานยกร่างกฎหมายกำลังพิจารณาดำเนินการ ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วจะเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมารับฟังความคิดเห็นในการช่วยดูร่างกฎหมายกันก่อนจะเสนอร่างกฎหมายต่อไป ซึ่งตนพยายามเร่งรัดอยู่เพราะไม่อยากให้ช้า
ด้านนายประสิทธิ์ชัย กล่าวถึงผลการหารือกับ รมว.สาธารณสุข ว่า เครือข่ายยื่นข้อเสนอต่อ รมว.สาธาณสุข 2 ประการ คือ 1.การกำหนดตำแหน่งแห่งที่ของกัญชาว่าจะเป็นยาเสพติดหรือเป็นพืชสมุนไพรหรือเป็นยาเสพติดบางส่วนโดยให้ใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลัก ซึ่ง รมว.สธ. ตอบว่า การผิดกฎหมายของกัญชายังเป็นไปตามกฎหมายที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือ กัญชาผิดกฎหมายเฉพาะสารสกัด THC 0.2 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีนโยบายในการนำส่วนอื่นกลับมาเป็นยาเสพติด ฉะนั้นกัญชาจึงเป็นพืชสมุนไพรตาม พ.ร.บ.ควบคุมของสมุนไพรอยู่เช่นปัจจุบันนี้และ 2.การตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาข้อมูลรอบด้านเพื่อนำมากำหนดกลไกการควบคุมกัญชาที่ถูกต้องเป็นธรรม รมว.สธ. ตอบว่า ขณะนี้ สธ. มีคณะทำงานเพื่อยกร่างกฎหมายกัญชาอยู่แล้วและเห็นด้วยกับการที่จะต้องเปิดให้มีส่วนร่วมในการวิพากษ์ ถกเถียง เพื่อให้กลไกที่กำหนดในกฎหมายมีความถูกต้องเป็นธรรมสอดคล้องกับข้อเท็จจริง ส่วนแนวทางปฏิบัติสำหรับเรื่องนี้คือตอนทำร่างกฎหมายเสร็จจะให้ประชาชนมาร่วมกันแสดงความเห็น โดยระยะเวลาดำเนินการทำร่างกฎหมายไม่น่าจะเกินสามเดือนโดยประชาชนจะได้ช่วยกันออกความเห็นต่อกฎหมายกัญชาของกระทรวงในช่วงปลายปี
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวด้วยว่า รมว.สธ. ยังชี้แจงด้วยว่า เป้าหมายของกัญชาคือ การแพทย์และสุขภาพ โดยคำว่าสุขภาพมีนิยามที่ลึกและกว้างซึ่งจะทำให้ประชาชนใช้กัญชาดูแลสุขภาพได้ และข้อถกเถียงประการสำคัญคือ กัญชาในรูปแบบนันทนาการ กระทรวงจะหาแนวทางกำหนดว่าแบบไหนเป็นไปเพื่อสุขภาพแบบไหนเป็นสันทนาการ ซึ่งจะทำให้การใช้กัญชามีความชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกัน ท่านยังย้ำด้วยว่ากัญชานั้นมีประโยชน์จำเป็นต้องหามาตรการเพื่อให้สามารถนำประโยชน์มาใช้ และในขณะเดียวกันก็ต้องกำหนดมาตรการควบคุมในสิ่งที่จะก่อผลเชิงลบ โดยกระทรวงจะคิดด้วยความรอบคอบ รอบด้าน ถือว่าข้อเสนอทั้ง 2ประการได้รับความชัดเจน
“เป้าหมายสำคัญของเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยคือ กลไกในกฎหมายที่จะบังคับใช้จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง การที่รัฐมนตรีมีแนวทางในการทำกฎหมายด้วยการเปิดให้ประชาชขนมาร่วมกันแสดงความเห็นและร่วมกันกำหนดกลไกถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการผลิตนโยบายที่ดีจะต้องมีข้อมูลที่รอบด้านมากพอ จึงจะทำให้กลไกนั้นมีประสิทธิภาพ เราจะรอการสื่อสารจากกระทรวงเมื่อจัดทำร่างเสร็จและเราจะช่วยกันอ่านวิเคราะห์ เพื่อเสนอมาตรการเพิ่มเติม หรือแก้ไข เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีและการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความเห็นเป็นการทำกฎหมายที่สง่าผ่าเผย ทั้งหมดนี้ประชาชนจะต้องไม่หยุดนิ่ง เราต้องสร้างการเรียนรู้กันต่อไป เพื่อให้มายาคติเกี่ยวกับกัญชาหายไป สังคมเข้าใจกัญชาตามข้อเท็จจริง และร่วมกันผลักดันกฎหมายที่เป็นธรรม” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี