เหยื่อคดี Forex
ร้องDSIทวงคดี
โกงสูญ1พันล้าน
เร่งเอาผิดหัวโจก
เหยื่อเทรด Forex กับ ดร.คนดัง ร้อง ดีเอสไอ เอาผิด หลังจากถูกโกงสูญกว่า 1,000 ล้านบาท หวั่นคดีถูกแทรกแซง ภายหลังปรากฏภาพร่วมเฟรมรมต.ดัง วอนเร่งรัดดำเนินคดีนำเงินคืนเหยื่อโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ได้พาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 100 ราย จากทั้งหมด 5,000 ราย ซึ่งถูกโบรกเกอร์ชักชวนลงทุนเทรด Forex เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท จากมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 5,000 ล้านบาท โดยไม่สามารถถอนเงินออกได้ อีกทั้งผู้เสียหายยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงคดี เนื่องจากผู้ก่อตั้งบริษัทเทรดเงินดังกล่าว มีภาพถ่ายร่วมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และรัฐมนตรีของพรรคการเมืองใหญ่ โดยรวมตัวกันยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาตรวจสอบ โดยมี น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รอง ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และนายเจตนา เหมมุน เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า เจ้าของบริษัทแห่งนี้ เป็น ดร.คนดังระดับประเทศ มีการใช้หลักธรรมะในการสอนเทรดเงิน และมีการทำโปรไฟล์สร้างความน่าเชื่อถือ มีการนำเอาหลักอริยสัจ 4 มาเป็นหลักแนวทางในการเทรดเงิน ซึ่งแตกต่างจากดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงก่อนหน้านี้ ที่จะใช้ความมีชื่อเสียงในสังคม มาชักชวนให้ร่วมลงทุน ทั้งยังอ้างว่าตัวว่ามีเครื่องมือที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดในโลก สามารถเก็งอัตราค่าเงินสกุลหลักๆ ของโลกได้ โดยเฉพาะช่วงที่โควิด-19 เกิดการระบาด หลายคนตกงานและอยากมีรายได้ จึงพบกับชายคนดังกล่าวที่ทำตัวเปรียบเสมือนเป็นพ่อพระ โดยคาดหวังว่าจะเป็นที่พึ่งให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว บางคนขายบ้าน บางคนนำเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง เพื่อนำเงินมาลงทุนในพอร์ตหุ้นดังกล่าว แต่สุดท้ายเว็บไซต์ก็ถูกปิดตัวลง กระดานเทรดเงินถูกปิดตัว จนทุกคนต้องลำบาก บางคนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย
ตัวแทนผู้เสียหายรายนี้ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังปรากฏภาพ ดร.คนดังรายนี้ ยังคงมีชีวิตปกติสุข มีการไปร่วมรับประทานอาหารกับรัฐมนตรีของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง จึงขอฝากถามไปยังพรรคการเมืองดังกล่าว ว่ามีส่วนรู้เห็นกับ ดร.รายนี้หรือไม่ และขอให้ช่วยออกมาชี้แจงว่าทรัพย์สินที่พี่น้องประชาชนเสียหายไปกว่า 10,000 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค หรือคนในพรรค และอยากให้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ รวมทั้งต้องการให้ดีเอสไอ ติดตามทรัพย์สินที่ถูกซุกซ่อนไว้ ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม นำกลับมาคืน หรือชดเชย ชดใช้ให้กับผู้เสียหาย
ด้าน น.ส.อรุณศรี กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ผู้เสียหายกลุ่มนี้ได้ไปร่วมลงทุนนั้น เป็นแชร์ลูกโซ่ Worldclass Financial Interlligence (WCF) ซึ่งทางดีเอสไอ ได้รับเป็นคดีพิเศษ ที่ 84/2566 ไปแล้ว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 100 ล้านบาท และมีผู้เสียหายเกินกว่า 100 คน อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ทางดีเอสไอจะเปิดระบบผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เสียหายที่เหลือสามารถลงทะเบียนและรับการนัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน และมอบพยานหลักฐานต่างๆ ต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อรรคริน กล่าวถึงพฤติการณ์ในการชักชวนลงทุนของกลุ่มบุคคลดังกล่าวนั้น จะชักชวนให้ผู้ที่สนใจเทรดสกุลเงินต่างประเทศ มีการให้ผู้เสียหายชักชวนบุคคลอื่นให้ร่วมเทรดด้วย แต่ถ้าไม่ได้ดำเนินการก็จะไม่เข้าข่ายร่วมกระทำความผิด อย่างไรก็ดี เนื่องจากการกระทำลักษณะนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย ดังนั้น พี่น้องประชาชนที่ถูกชักชวน สามารถตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ว่าบริษัทดังกล่าว ได้รับอนุญาตในการประกอบธุรกิจประเภทนี้หรือไม่ หรือตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชันไลน์ @checkdidsi (Line official เฉพาะกิจ แชร์ลูกโซ่) เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอก ถูกชักชวนลงทุนของมิจฉาชีพกลุ่มแชร์ลูกโซ่ อีกทั้งการลงทุนในลักษณะการเทรดสกุลเงินตราต่างประเทศ ยังคงมีเฉพาะธนาคารพาณิชย์กับบริษัทหลักทรัพย์ เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความกังวัลของผู้เสียหายว่าโบรกเกอร์มีความสนิทสนมกับคนใหญ่คนโต จะให้ความมั่นใจในการดำเนินคดีอย่างไร พ.ต.อรรคริน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจไม่ต้องกังวล เพราะเราทำคดีในลักษณะแชร์ลูกโซ่มาหลายคดี และที่ผ่านมาพบว่าพฤติการณ์ไม่แตกต่างกัน และไม่มีใครสามารถแทรกแซงการทำคดีของดีเอสไอ ได้ เราทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และพร้อมจะให้ความเป็นธรรม ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวน คงต้องขอเวลาให้คณะทำงานได้รวบรวมพยานเอกสารต่างๆ และนัดหมายผู้เสียหายเพื่อเข้าให้ปากคำในรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติม เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการรอลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ ทั้งนี้ ขอประชา สัมพันธ์ว่าในส่วนของเอกสารต่างๆ ทางผู้เสียหายยังไม่จำเป็นต้องรีบส่งมาทางไปรษณีย์มาถึงดีเอสไอ ขอให้ลงทะเบียนนัดหมายกับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยก่อน แล้วจึงนำมาพร้อมกันในวันนัดหมายเข้าให้ปากคำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี