25 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลทยอยกลับประเทศกันอย่างต่อเนื่องหลังจากเกิดสงคราม โดยหนึ่งในแรงงานไทยที่รอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์ นายวิทวัส กุลวงศ์ หรือ "แจ๊ค" อายุ 34 ปี ชาวอ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ได้เดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ซึ่งทางครอบครัวจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญและเดินทางมาให้กำลังใจกันทั้งหมู่บ้านอย่างอบอุ่น
นายวิทวัส โชว์บาดแผลที่ถูกทำร้าย พร้อมกล่าวว่า วันนี้สุขใจและโล่งอกเป็นอย่างมาก เพราะได้กลับมาถึงบ้านภรรยาแล้ว ตนเองขอใช้เวลาพักผ่อนสักระยะกับลูกและภรรยา ก่อนจะเดินทางไปที่จ.อุบลฯ เพื่อบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่หลังจากที่ยังไม่เคยบวชสักครั้ง
โดยนายวิทวัส เล่าย้อนไปเหตุการณ์ที่ยังอยู่ในความทรงจำหลังรอดตายมาได้ปาฏิหาริย์ กล่าวว่า ยังจำได้แม้จะผ่านมาเกือบ 2 อาทิตย์กว่าในคิบบุตช์ที่ตนเองทำงาน เช้าวันที่ 7 ต.ค.66 กลุ่มฮามาสได้บุกเข้ามาในแคมป์ มีทั้งทหารและพลเรือน ค้นหาคนไทยทั้งในออฟฟิศและเล้าไก่ เขาเดินหาคนไม่เจอแล้วก็ออกไป พร้อมทั้งยิงปืนใส่ตามห้องด้วย จากนั้นเขาก็เดินออกไป ผมก็เปิดประตูวิ่งออกไปหลบในอุโมงค์ ปรากฏว่ามีกลุ่มฮามาสชุดที่ 2 เข้ามา เขาเดินมาตามรั้วแล้วบังเอิญมาเจอผมพอดี เขาก็บอกให้ผมนอนคว่ำหน้าและเอามือประสานท้ายทอย ตอนนั้นไม่คิดอะไร สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย จึงตัดสินใจฮึดสู้ เขามีมีด ผมมือเปล่า สู้กันประมาณ 20- 30 นาที กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน แต่ผมพลาดท่าเจอมีดของกลุ่มฮามาสปักที่ศีรษะ
"ตอนนั้นมีสติอยู่ ดึงมีดออกแล้วหักมีด จากนั้นก็สู้กันด้วยหมัด แต่ตอนนั้นผมเสียเลือดมาก ค่อยๆ สลบไป ตอนนั้นจำได้ตอนที่ผมจะสลบ กลุ่มฮามาสใช้มีดปาดคอผม เขาคิดว่าผมตายไปแล้วเขาก็ตัดเอากระเป๋าคาดเอวผมไป พอห้าโมงผมได้สติ ผมก็เลยคลานไปตามคูดินเพื่อไปหาพี่ที่หลบในห้อง ทั้งๆ ที่เลือดเต็มใบหน้า พอคลานไปถึงห้องพี่ที่ทำงานและเคาะประตูให้พี่ช่วยผมไม่คิดว่าผมจะรอด" นายวิทวัส กล่าว
นายวิทวัส กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้กลับถึงบ้านแล้วคงไม่กลับไปอีกแล้ว จากนี้ไปก็หางานทำแถวบ้าน และขออยู่กับลูกและครอบครัว จากนั้นก็จะเดินทางไปบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ที่จ.อุบลฯ ในความรู้สึกของผมอยากให้ทางรัฐบาลไทยช่วยเรื่องหนี้สินของแรงงานไทยทุกคน เพราะส่วนใหญ่กู้หนี้ยืมสินก่อนไปทำงาน รวมทั้งอยากให้รัฐบาลแนะนำหรือแนะนำงานด้านต่างๆ ให้แรงงานไทยทำด้วยก็จะดี สุดท้ายนี้ผมอยากให้เพื่อนๆ แรงงานไทยที่ยังอยู่ในประเทศอิสราเอล อยากให้กลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน จะกลับไปทำงานหรือไม่ค่อยว่ากันทีหลัง ส่วนที่นายจ้างเพิ่มค่าแรงให้ก็ดีอยู่ แต่หากเกิดอะไรขึ้นแล้วคงไม่คุ้มกับชีวิตในสภาวะสงครามแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี