จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวง 3 สาวไทยทำงานฝั่งลาว ตุ๋นเหยื่อลงทุน

26 ตุลาคม 2566 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้ พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศนพันธ์ รองผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ , พ.ต.ท.ปริญญา กฤษณา ผู้อำนวยการส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ 2 , นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนการข่าว ศูนย์สืบสวนและการข่าว นำกำลังดีเอสไอ ร่วมกับด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย นำโดย ร.ต.อ.พิชญ์พัชระ พชญนันท์ รอง สว.ด่าน ตม.เชียงแสน พร้อมหมายจับจากศาลอาญาเข้าจับกุมตัวนายวสันต์ อายุ 38 ปี ชาวไทย และนางบัวทอง อายุ 50 ปี ชาว สปป.ลาว ขณะที่ทั้งคู่อยู่ในบ้านพักในพื้นที่ ต.เวียง อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว

สืบเนื่องจากช่วงปลายปี 2564 มีหญิงสาวชาวไทย 3 คน แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิพิทักษ์สตรีและดีเอสไอ ว่า ถูกกลุ่มคนติดต่อเป็นนายหน้าให้ไปทำงานทั่วไปที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามแม่น้ำโขงกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ้างว่าจะให้ค่าจ้างอย่างดี เมื่อทั้ง 3 คนตกลงใจ ได้มีคนพาลักลอบหลบหนีลงเรือแม่น้ำโขงข้ามไปยังเมืองต้นผึ้ง แต่เมื่อไปถึงสถานที่ทำงานกลับถูกบังคับให้เป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ , โรแมนซ์สแกม โดยให้ชักชวนเหยื่อเข้าไปลงทุน เมื่อมีคนโอนเงินเข้าไปก็ให้ปิดระบบ จากนั้นให้เริ่มต้นหลอกเหยื่อรายใหม่ เมื่อไม่ยอมก็ถูกทำร้ายร่างกายและขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ

ทางดีเอสไอ พิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 จึงให้กองคดีการค้ามนุษย์ของดีเอสไอ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฝั่งไทยและฝั่ง สปป.ลาว เช่น เจ้าแขวงบ่อแก้ว เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ฯลฯ จนสามารถช่วยหญิงสาวทั้ง 3 คนออกมาได้และพากลับประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย

จากนั้นดีเอสไอ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย โดยเป็นชาวไทยและคนลาวที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนรวม 3 ราย และชาวจีน 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าผู้ถูกจับกุมในครั้งนี้ทำหน้าที่พาหญิงชาวไทยหลบหนีข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาว โดยเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง หลังเข้าจับกุมแล้วเจ้าหน้าที่ได้นำส่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษของดีเอสไอเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ///////-005