‘แรงงานไทย’ยกมือหนุนโอนหนี้ไป ธกส. เผยจิตใจย่ำแย่ไม่หวนกลับอิสราเอล  

27 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานแรงงานจังหวัดน่าน อ.เมืองน่าน จ.น่าน แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล ต่างทยอยเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยข้อมูลพบว่าแรงงานจาก จ.น่าน เดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอล 898 คน โดยถูกกฎหมาย จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2566 มีแรงงานเดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้ว 205 คน หลายคนเป็นแรงงานที่กู้เงินนอกระบบเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จากการสอบถามทราบว่ารายละไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท ดอกเบี้ยแล้วแต่ตามตกลง บางส่วนเพิ่งหมดหนี้สิน แต่ยังมีหนี้สินอื่น บางส่วนยังไม่หมดหนี้ และบางส่วนยังไม่ได้ชำระหนี้

นายสมศักดิ์ กมลทัต แรงงานไทย จ.น่าน ที่เดินทางมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ กล่าวว่า ก่อนไปตนทำอาชีพเกษตรกรรมปลูกข้าวโพดประสบภาวะขาดทุน และตนได้กู้เงินมาสร้างบ้าน จึงตัดสินใจไปทำงานที่อิสราเอล ยืมเงินญาติๆ 120,000 บาท ตนไปทำงานที่อิสราเอลทางภาคกลางตอนใต้ ห่างจากกาซา 8 กิโลเมตร (กม.) วันเกิดเหตุ 7 ตุลาคม 2566 ตอนฮามาสบุกมา นายจ้างได้ให้พวกตนเข้าไปหลบในบ้าน ฮามาสกำลังบุกมา แต่ทหารอิสราเอลได้เข้ามาสกัดเอาไว้ได้ พวกตนจึงรอด แต่สภาพจิตย่ำแย่เพราะคนที่ถูกฮามาส ลากไปยิงที่ตายก็ถือเป็นลูกหลาน จึงตัดสินใจกลับบ้านดีกว่า เรื่องหนี้สินยังไม่ได้คุยกับเจ้าหนี้เลย ยังไม่ได้ชำระเลยสักบาทวันนี้จะเข้าไปคุยกับเจ้าหนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเห็นด้วยกับรัฐบาล หากจะเข้ามาช่วยเหลือโอนหนี้นอกระบบไปยังธนาคาร ธกส. เนื่องจากเห็นใจ เพราะบางคนแบกรับดอกเบี้ยที่สูงมาก และเป็นอีกเหตุผลที่แรงงานต้องตัดสินใจอยู่ทำงานในพื้นที่อิสราเอลที่มีสงคราม ก่อนตนกลับมาก็ยังยิงกันอยู่ โดยเป้าหมายโจมตีเป็นสนามบิน หากสนามบินถูกโจมตีก็ยาวเลย

“ในส่วนของการจะกลับไปทำงานในอิสราเอล อีกหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่กลับไปแล้ว หากคนผ่านสถานการณ์มาจะเข้าใจ ทุกวันนี้ผมยังนอนไม่หลับ มีอาการกระวนกระวายอยู่เลย คงต้องขอพักรักษาสภาพจิตใจก่อน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะทำอะไร แต่ขอพักรักษาสภาพจิตใจก่อน” นายสมศักดิ์ กล่าว

ขณะที่สำนักงานแรงงานจังหวัดน่าน รับลงทะเบียนขอรับค่าเดินทางของแรงงานที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอล มีแรงงานมาขอรับเงินคืน ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม มีจำนวน 125 คน ทางแรงงานจังหวัดน่านยังเปิดรับคำร้องจากแรงงาน กรณียังไม่ได้รับค่าแรง จากข้อมูลพบว่ามีเพียง 20 กว่ารายเท่านั้นที่ได้รับเงินค่าจ้างแล้ว และมีประมาณ 10 กว่ารายที่นายจ้างแจ้งว่าให้เดินทางกลับไปก่อนแล้วจะโอนเงินเข้าธนาคาร หากธนาคารกลับมาเปิดทำการแล้ว ที่เหลือยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง โดยทางแรงงานจังหวัดน่านจะรับคำร้องของแรงงานที่ยังไม่ได้รับค่าแรง เพื่อส่งเรื่องไปให้กรมแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศเพื่อติดตามค่าแรงต่อไป