มวลอากาศเย็นมาแล้ว
เตือน 16 จว.ใต้ฝนหนัก
ปค.เปิดปฏิบัติการ“ป่าช้าแตก” ลุยค้นผับเถื่อนในวันฮาโลวีน ย่านช้างเผือก จ.เชียงใหม่ พบใช้อาคารดัดแปลงสภาพผิดกฎหมาย แถมให้เด็ก-เยาวชน เข้าใช้บริการ รวบตัวได้ 242 คน จ่อชงผู้ว่าฯ สั่งปิด 5 ปี
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมด้วยกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง จ.เชียงใหม่ นำโดยนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสุทธิ์ นายอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการ ‘เลอเนิร์ฟผับ’ ย่านถนนช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่กระทำผิดกฎหมายในช่วงคืนวันฮาโลวีน 31 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผับเป้าหมายเป็นผับที่ไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งสถานบริการ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักเที่ยว ว่าเป็นผับเด็กวัยรุ่น นักเรียนและนักศึกษา โดยใช้บ้านไม้สองชั้น มาดัดแปลงเป็นผับโดยไม่ได้รับอนุญาต มีนักเที่ยวเบียดเสียดยัดเยียดกันเข้าไปใช้บริการ มีเพดานบ้านต่ำ ไร้ทางหนีไฟ มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็ก และปล่อยปละละเลยให้เด็กเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยพบนักเที่ยวเป็นนักเรียนและนักศึกษา อายุต่ำกว่า 20 ปี รวม 242 คน
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว เนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีนโยบายให้ฝ่ายปกครองทั่วประเทศ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ กวดขันปราบปรามผู้มีอิทธิพล จัดระเบียบสังคม กวาดล้างยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนัน และอาวุธปืน โดยเริ่ม Kick off วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ทางฝ่ายปกครอง จ.เชียงใหม่ จึงประสานชุดปฏิบัติการพิเศษ วางแผนเข้าจับกุมผับแห่งนี้ ซึ่งมีการร้องเรียนจากประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ว่าเปิดให้บริการโดยปล่อยปละละเลยให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเปิดจนถึงเวลา 02.00 น.เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านจนนอนไม่หลับ จึงเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงจนพบว่ามีการกระทำผิดจริง
กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการ “ป่าช้าแตก” บุกจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายดังกล่าว เมื่อชุดจับกุมเข้าไปภายในก็พบเป็นห้องปิดทึบ มีการเปิดเพลงเสียงดังสนั่น เปิดแสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวเกือบ 300 คน กำลังมั่วสุมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามันส์ นักเที่ยวกว่า 90% ของร้าน เป็นเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟแสงสว่าง จนภายในผับเกิดความโกลาหล นักเที่ยวต่างแตกตื่นตกใจ และพยายามจะหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและด้านหลังร้าน แต่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมประตูทางออกไว้ทุกด้านแล้ว บรรดานักเที่ยวจึงไม่สามารถหลบหนีไปได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ จากการตรวจสอบ พบนักเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและนักศึกษา อายุระหว่าง 17-19 ปี ยังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาใน จ.เชียงใหม่
สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่ได้ประสานให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงใหม่ รับตัวไปคุ้มครองสวัสดิภาพ และจัดทำประวัติ ก่อนจะแจ้งให้ผู้ปกครองมารับตัวไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ดูแลร้าน ดังนี้ 1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 4.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 6.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม และ 7.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
นอกจากนี้ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหาการแข่งรถยนต์และจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (1)-(4) ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะเสนอให้ ผวจ.เชียงใหม่ ออกคำสั่งปิดสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ส่วนการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้น ทางจังหวัดเชียงใหม่ จะประสานเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อออกคำสั่งระงับการใช้อาคารดังกล่าวต่อไป
ด้านนายรณรงค์ กล่าวว่า ผับแห่งนี้นอกจากไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการแล้ว ยังมีการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องจับกุมดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
“ขอฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ควรประกอบธุรกิจอย่างมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยปละละเลยให้เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ การปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติด และการพกพาอาวุธเข้าไปในสถานบริการ หากพบว่าร้านใดยังฝ่าฝืนจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีและเสนอให้สั่งปิด 5 ปี ทุกร้าน และหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจท้องที่ หรือร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ/จังหวัด หรือสายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายรณรงค์ กล่าว
บรรยายภาพ : เปิดวันแรก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานวันแรกหลังปิดไปกว่า 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟูกลับมาต้อนรับสายลมหนาวอีกครั้งโดยมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมอย่างคึกคักซึ่งช่วงเช้าอุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์ ต่ำสุด 11 องศาฯ และกิ่วแม่ปาน ต่ำสุด 12 องศาฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี