"ราชทัณฑ์" ไม่นิ่งนอนใจ หลังสังคมแคลงสงสัย 2 ผู้คุมผลัดเช้าไม่โดนด้วย ระบุ คกก.เตรียมเรียกสอบแจงเหตุเปลี่ยนโซ่ตรวน "เสี่ยแป้ง"ก่อนหนีออกจากรพ. ขณะที่ "น.ส.ไหม" คนเฝ้าไข้ยัน โซ่ที่ถูกเปลี่ยนไม่ได้แน่นหนาขึ้น ด้าน"โฆษกราชทัณฑ์" เผยคำให้การทั้งหมดล้วนขัดแย้งกัน
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองนครศรี ธรรมราช ได้ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ออกหมายจับ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย 1.นายวรินทร ทองประจง อายุ 41 ปี 2.นายเอกลักษณ์ ไชยกาญจน์ อายุ 35 ปี ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่เป็นบุคคลต้องคำพิพากษาของศาลให้ลงโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป อยู่ระหว่างคุมขังหลุดพ้นจากการคุมขังไป โดยทั้งคู่รับหน้าที่ควบคุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษชายรายสำคัญ หลบหนีออกจากการควบคุมตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้นายเชาวลิต ยังอยู่ระหว่างหลบหนีกบดาน นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า นายเชาวลิต พร้อมด้วยภรรยาและลูกเล็ก อาจหลบหนีไปถึงประเทศมาเลเซียเรียบร้อยแล้วนั้น
ล่าสุด นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นที่ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ในผลัดเช้า ซึ่งเป็นคนละเวรกับ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ผลัดบ่ายที่ถูกออกหมายจับ ได้ดำเนินการเปลี่ยนโซ่ตรวนข้อเท้าให้นายเชาวลิตนั้น เบื้องต้นมีการชี้แจงกับคณะกรรมการฯ ว่า ได้ตรวจสอบโซ่ตรวนที่ข้อเท้าของนายเชาวลิตแล้วพบว่าไม่กระชับและไม่แน่นหนา จึงไปเปลี่ยนตรวนข้อเท้าให้กระชับมั่นคงขึ้น ซึ่งระหว่างคำให้การของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ผลัดเช้าและคำให้การของ น.ส.วิลาวัลย์ (คนเฝ้าไข้นายเชาวลิต) ยังคงให้การไม่สอดคล้องกัน เพราะ น.ส.วิลาวัลย์ ให้การว่าโซ่ตรวนข้อเท้าของนายเชาวลิต เมื่อได้รับการเปลี่ยนโดยผู้คุมในผลัดเช้าแล้วยังคงหลวม ไม่ได้กระชับแน่นหนามั่นคงตามที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กล่าวอ้าง และเมื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อยู่ในผลัดบ่ายมาตรวจโซ่ตรวนข้อเท้าของนายเชาวลิตเพราะเข้ารับเวรต่อ ก็พบว่าแน่นกระชับปกติดี จึงพบว่าคำให้การของบุคคลทั้งหมดล้วนขัดแย้งกัน ทำให้หลังจากนี้คณะกรรมการฯ ต้องไปดูคำให้การในสำนวนของตำรวจมาประกอบร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้คุมราชทัณฑ์ 2 รายในผลัดเช้า ยังคงปฏิบัติราชการอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังไม่ได้ถูกสั่งพักราชการไว้ก่อน เนื่องมาจากคณะกรรมการฯ ต้องเน้นตรวจสอบไปที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 รายในผลัดบ่ายที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุหลบหนีก่อน แต่หากมองในเรื่องของความบกพร่องก็ต้องมองเหมารวมทั้งชุดเวร ทั้งผลัดเช้าและผลัดบ่ายของวันเกิดเหตุ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะต้องเรียกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 รายที่อยู่ในผลัดเช้ามาสอบถามถึงสาเหตุการเปลี่ยนโซ่ตรวนข้อเท้าให้ผู้ต้องขังในช่วงเช้า เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างครอบคลุมที่สุด และคณะกรรมการฯ ต้องรอดูผลการสอบปากคำของตำรวจในส่วนของคำให้การของ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ที่ถูกออกหมายจับว่าจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
โฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงขั้นตอนถัดไปว่า เมื่อคณะกรรมการฯ ประสานขอรายละเอียดคำให้การของ 2 ผู้คุมราชทัณฑ์ที่เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าที่ตำรวจแล้วนั้น ในส่วนของพยานหลักฐานอื่นๆ อาทิ ภาพจากกล้องวงจรปิดของ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราก็จะประสานขอมาเช่นกันเพื่อประกอบการพิจารณา ส่วนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีผู้คุมรายใดในผลัดเวรวันเกิดเหตุมีการรับผลประโยชน์จากการหลบหนีของนายเชาวลิตหรือไม่นั้น จะเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งราชทัณฑ์ไม่มีอำนาจในส่วนนี้แต่อย่างใด
โฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่านายเชาวลิตเคยมีพฤติการณ์วางแผนหลบหนี (แหกคุก) ตั้งแต่สมัยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางพัทลุงหรือไม่นั้น ในส่วนนี้คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดเชิงลึก แต่ได้รับรายงานว่านายเชาวลิตไม่เคยมีพฤติการณ์ก่อเหตุหลบหนี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก อีกทั้งที่ผ่านมา ก่อนมีการโอนย้ายนายเชาวลิตมาคุมขังไว้ที่เรือนจำกลางนครศรี ธรรมราชแทนเรือนจำกลางพัทลุง ทราบว่าผู้บัญชาการเรือนจำกลางพัทลุง เคยรายงานข้อมูลว่านายเชาวลิตเป็นผู้ต้องขังในคดีร้ายแรงหลายคดี และล้วนเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง จึงต้องมีการโอนย้ายผู้ต้องขังมาที่เรือนจำกลางนครศรีธรรม ราชแทน เพราะเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี