อุตุชี้34จว.มีฝน
ภาคใต้ร้อยละ60
ชาวโคราชอ่วม!
น้ำมูลหลากท่วม
กรมอุตุฯเผยภาคเหนือ-อีสาน มีหมอกตอนเช้า ภาคตะวันออก-ใต้ฝนตกร้อยละ 30-60 กทม.-ปริมณฑลฝนน้อยลง ตกร้อยละ 20 ด้านชาวโคราช เดือดร้อนหนัก แม่น้ำมูลล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือน-ไร่นา
เมื่อวันที่ 5พฤศจิกายนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย รายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง และตาก ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาครลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.รวมมีผลกระทบ 34 จังหวัด
วันเดียวกัน ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปริมาณน้ำในลำน้ำมูล พื้นที่บ้านวังกุ่ม หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่งลำน้ำกว่า 10 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตรทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เก็บของขึ้นที่สูงกันแทบไม่ทัน อีกทั้งน้ำยังท่วมพืชสวน บ่อเลี้ยงปลา และคอกสัตว์เลี้ยง จนได้รับความเสียหาย ซึ่งมวลน้ำเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่จากพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ช่วงที่มีฝนตกหนักปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มวลน้ำสะสมได้ไหลลงลำน้ำธรรมชาติ รวมกับน้ำในทุ่งไหลมาสมทบลงลำน้ำมูลอย่างรวดเร็วในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ก่อนจะไหลลงลำน้ำจักราช และลำน้ำมูล พื้นที่เหนือเขื่อนพิมาย อ.พิมาย
ขณะที่โครงการศูนย์ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ เขื่อนพิมาย ได้ยกประตูเขื่อนทั้งหมด 6 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำเหนือเขื่อนพิมายลงสู่ลำน้ำมูลด้านท้ายเขื่อนโดยเร็ว เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายเกินระดับกักเก็บ จำเป็นต้องเร่งพร่องน้ำออก เพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำในลำน้ำเอ่อท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและโบราณสถานของ อ.พิมาย
ชาวบ้านวังกุ่มรายหนึ่ง ที่รับผลกระทบ ระบุว่า น้ำมูลได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านของตนเป็นรอบที่ 2 แล้ว โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านบางคนต้องเร่งกรอกกระสอบทรายนำมาวางป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมภายในตัวบ้าน ขณะที่ชาวบ้านบางรายต้องพายเรือเข้าออกบ้าน เพราะภายในบ้านถูกน้ำท่วมขังสูง คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี