‘อนุทิน’ย้ำนำร่อง
4จังหวัดท่องเที่ยว
เปิดผับ-บาร์ถึงตี4
แก้ก.ม.ทันไฮซีซั่น
“อนุทิน” ย้ำนำร่องเปิดผับ-บาร์ ถึงตี 4 ในพื้นที่ 4 จังหวัดเมืองท่องเที่ยว พร้อมรับฟังความเห็นประชาชน เร่งแก้กฎหมายบังคับใช้ให้ทันช่วงไฮซีซั่น
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วม โดยนายอนุทิน กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ได้รับบัญชาโดยตรงจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่ให้ความไว้วางใจเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการตามนโยบาลเร่งด่วนของรัฐบาล
อีกทั้งนายกฯ ได้เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ร่วมพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ขณะนี้จะพยายามไปพบกับผู้ว่าฯ ในจังหวัดท่องเที่ยว ท่านชื่นชมการทำงานทั้ง ผวจ.เชียงใหม่ และ ผวจ.ชลบุรี ในการปฏิบัติหน้าที่ และฝากให้กำลังใจกับ ผวจ.ภูเก็ต ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ขอให้มีกำลังใจในการทำงาน เราจะมาเปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้ มันเป็นเรื่องลำบาก
ต่อมาภายหลังการประชุม นายอนุทิน กล่าวว่า ได้สรุปสิ่งที่ทำงานในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งมีข้อสั่งการให้เป็นแนวทางปฏิบัติของเดือนต่อไป ส่วนนโยบายเร่งด่วน คือเรื่องการจัดระเบียบสังคม ตนได้หารือกับ ผบ.ตร.รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องทำงานร่วมกัน ให้สังคมมีความเรียบร้อย ไม่ได้เข้ามาทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือแย่งชิงผลงานกัน จริงๆ ไม่มีอยู่แล้ว แต่บางทีจังหวะที่เข้าไปกับการสื่อสารอาจจะคลาดเคลื่อน แต่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้อีก
รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงข้อสั่งการของนายกฯ เรื่องแผนบูรณาการการท่องเที่ยวจากเปิดสถานบริการถึงตี 4 นำร่อง 4 จังหวัดท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมนี้ ว่านายกฯ ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น จึงให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาว่าควรจะเปิดในรูปแบบใด ไม่ใช่ทั้งประเทศ แต่ขอเน้นในจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวสูง อาทิ กทม.เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ซึ่งแต่ละจังหวัด จะต้องทำประชาพิจารณ์ เป็นขั้นตอนที่ต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เมื่อถามว่าขณะนี้มีกฎหมายควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเวลาเปิดปิดสถานบริการ จะต้องแก้กฎหมายอะไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่ามีกฎหมายไหนขัดแย้งกันเองหรือไม่ เช่น พ.ร.บ.สุรา ให้ขายไม่เกินเที่ยงคืน ถ้าไม่ใช่สถานบริการประเภทหนึ่งก็ไม่สามารถขายได้ และหากไม่มีการเล่นดนตรี ก็จะเป็นร้านอาหารสามารถเปิดได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งกระแสข่าวก่อนหน้านี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วนการแก้กฎหมายจะต้องหารือกับทางกระทรวงมหาดไทย ว่าสามารถแก้ไขได้อย่างไร เช่น การขยายเวลาเปิดแค่ 2 ชั่วโมง ถึงขั้นทำประชาพิจารณ์ นำเข้า ครม.ผ่านกฤษฎีกา ประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษา จะต้องดำเนินการถึงขนาดนั้นหรือไม่ และในเมื่อกระทรวงมหาดไทย มีผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ก็ให้เป็นดุลพินิจของผู้ว่าฯ ร่วมกับตำรวจได้หรือไม่ หรือจะให้เป็นการประกาศ รมว.มหาดไทย หรือใช้อำนาจของนายกฯ แต่ถ้าให้ออกเป็น พ.ร.ก.หรือนำเข้า ครม.อาจจะพ้นช่วงไฮซีซั่นไปแล้ว จึงต้องเร่งเข้าในที่ประชุม ครม.
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลอะไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี มีทั้งคนเชียร์และคนไม่เชียร์ ซึ่งเราจะต้องรับฟังประชาชน แต่โซนท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เราสามารถพิจารณาได้ เพราะจังหวัดเหล่านั้นจะมีสถานบริการประเภทหนึ่งที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี