ระดมทัพตชด.
บุกลุยป่าตามล่า‘เสี่ยแป้ง’
ให้ชาวบ้านออกนอกพื้นที่
ตำรวจแถลงปฏิบัติการไล่ล่า “เสี่ยแป้ง”บนเทือกเขาบรรทัด ตั้งโต๊ะโชว์อาวุธปืนที่ตรวจยึดมาได้ ยืนยันมีการยิงปะทะกันจริง เผยขณะนี้ “เสี่ยแป้ง” ยังมีอาวุธสงครามอีกเพียบ ระดมกำลังตชด.เข้าพื้นที่บ้านตระ หวังปิดเกม พร้อมขอให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่เป็นเวลา2 วัน เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเปิดปฏิบัติการติดตามจับกุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด”อายุ 37 ปี นักโทษอุกฉกรรจ์แหกโซ่ตรวนหนีจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยคาดว่า ขณะนี้ยังคงกบดานบนเทือกเขาบรรทัดเขตรอยต่อ 3 จังหวัดตรัง-พัทลุง-สตูล
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ อ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธรภาค 8 ยังคงตรึงกำลังปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด บริเวณโดยรอบบ้านตระ เชื่อมต่อระหว่าง จ.พัทลุง จ.ตรัง จ.สตูล หลังเชื่อว่า เสี่ยแป้ง ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่บนเขา โดยมีการสลับสับเปลี่ยนกำลัง และเพิ่มกำลังเสริม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดที่มีมีความชำนาญในการเดินป่า มาจาก จ.นราธิวาส จ.ยะลา และกำลังตำรวจ ตชด.ค่ายนเรศวร เพื่อปิดล้อมกดดันจุดเป้าหมายบนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งอยู่เหนือจุดปะทะ และเพิงที่พักของเสี่ยแป้ง นาโหนด ขึ้นบนเนินเขา
อย่างไรก็ดีการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากสภาพพื้นที่บนเทือกเขามีฝนตก เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก เจ้าหน้าที่จึงเตรียมความพร้อมชุดพยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไว้ด้านล่าง เพื่อเตรียมพร้อม หากเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า อุปสรรคของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คือ สภาพพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูง และบางช่วงอากาศไม่เปิด กว่าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะขึ้นไปเก็บหลักฐานได้ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกส่วนเฝ้าสถานที่เกิดเหตุไว้ การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้กำลังเสริม เพราะเป็นป่าลึก ฝ่ายผู้ต้องหามีความชำนาญกว่าเจ้าหน้าที่
พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.ธนา ได้ผากประชาสัมพันธ์ชาวบ้านอย่าให้ความช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดทางกฎหมาย เพราะ เสี่ยแป้ง คือนักโทษ พร้อมขอให้เสี่ยแป้งมอบตัว อย่าต่อสู้ขัดขวาง เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย เพราะหากเกิดการปะทะอาจจะต้องสูญเสียทั้งฝ่ายเขา และฝ่ายเรา จึงต้องการให้เข้ามอบตัว
พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า แป้ง นาโหนด เป็นผู้ต้องหาสำคัญ และมีการเตรียมตัวในการหลบหนีเป็นอย่างดี และเจ้าหน้าที่ค่อนข้างปฏิบัติการลำบาก ย้ำหากประชาชนพบตัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อควบคุมตัว ป้องกันไม่ให้ แป้ง นาโหนด มาก่อเหตุ และสร้างเครือข่ายเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเก็บมาได้จากที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุปะทะ ประกอบด้วยอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีน 4 แม็ก เสื้อกั๊ก 1 ตัว ปืนลูกซอง 1 กระบอก รองเท้า 1 คู่ เสื้อผ้า ถ้วย จาน ช้อน พร้อมเครื่องปรุงอาหาร รวมทั้งอุปกรณ์การเสพยาเสพติด และยาบ้าจำนวนหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ในบางช่วงบางตอนระหว่างการแถลงข่าว พล.ต.ท.ธนา กล่าวว่า ขณะนี้จากการตรวจสอบทราบว่า แป้ง นาโหนด ยังมีอาวุธปืนเอชเค และปืนพกสั้นขนาด 9 มม. พกติดตัวอยู่อีก ก็อยากฝากว่าใครติดต่อ แป้ง นาโหนดได้ ก็ขอให้มามอบตัว อย่าต่อสู้ขัดขวาง มันจะเกิดการสูญเสีย
ขณะที่ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยว่า ปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 ที่ตรวจยึดมาได้ พฐ.ตรวจพิสูจน์ว่ามีการปะทะกันจริง โดยทางตำรวจยิงใส่อาวุธปืนกระบอกดังกล่าว ทำให้ปืนของ เสี่ยแป้ง ติดขัดจึงต้องทิ้งไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณศูนย์ปฏิบัติการพิเศษไล่ล่าคนร้าย ริมอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปล่อยแถวกำลังชุดปฏิบัติพิเศษของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ตำรวจ ภ.จว.ยะลา , ภ.จว.นราธิวาส และ ภ.จว.ปัตตานี รวมทั้งสิ้น 35 นาย ภายใต้การควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.อ.ศรีวิไล ไชยชาญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ภ.จว.ยะลา จากนั้น ได้ลงเรือหางยาว 3 ลำ เพื่อไปขึ้นฝั่งในพื้นที่ป่าไม้ตรงข้ามกับอ่างเก็บน้ำฯ ก่อนจะลงเดินเท้าเข้าสู่พื้นที่บ้านตระ ในส่วนของตำรวจ สภ.ตะโหมด มีการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดเต็มพื้นที่เช่นกัน
พล.ต.ท.อิทธิพล ได้เน้นย้ำให้ชุดปฏิบัติหน้าที่พิเศษใช้ความระมัดระวัง รอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนสงคราม และอาวุธที่ร้ายแรงที่พร้อมที่จะยิงต่อสู้กับตำรวจได้ตลอดเวลา และมั่นใจว่าชุดดังกล่าวเป็นชุดปฏิบัติการที่ดีชุดหนึ่ง จึงขอให้กำลังใจกับทุกๆ คน ในขณะเดียวกันกำลังของกองร้อย ตชด.ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ประมาณ 40 นาย ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บริเวณริมอ่างเก็บน้ำดังกล่าว เพื่อมุ่งสู่พื้นที่บ้านตระในการไล่ล่าเสี่ยแป้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.9 และตำรวจในสังกัด ภ.จว.ตรัง จำนวนกว่า 30 นาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นไปสนับสนุนทีมตำรวจที่ขึ้นไปด้านบนเทือกเขาบรรทัด โดยมีการนำเสบียงขึ้นให้กำลังตำรวจที่อยู่ด้านบนแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้น้ำบริเวณน้ำตกไหลแรง และแดงขุ่น ประกอบการทางรถและทางเดินเท้าบนเทือกเขาบรรทัดที่เป็นดินโคลนแฉะ และเป็นป่าดิบชื้น ทำให้มีทากและสัตว์เลื้อยคลาน
ขณะที่ชาวบ้านได้ขี่รถจักรยานยนต์ลงมาจากชุมชนบ้านตระ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ลงมาอาศัยอยู่ด้านล่างก่อน โดยขอเวลาแค่ 2 วัน เช่น อาศัยบ้านญาติ เพื่อความปลอดภัยกับชาวบ้าน และความสะดวกในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ ในการไล่ล่าติดตามตัว ยังไม่มีการเปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะมีการเพิ่มกำลังและยุทธวิธีในการปฏิบัติงานเพื่อกดดันล่าตัวเสี่ยแป้งเพิ่มมากขึ้น
จากการสอบถาม นายสุทน เกตุดำ ชาวบ้าน หมู่ 2 บ้านตระ ต.ปะเหลียน กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์ด้านบนก็ยังคงปกติจากเมื่อวานนี้ แต่เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ชาวบ้านในชุมชนบ้านตระ และที่อยู่เหนือบ้านตระลงมาด้านล่างก่อน โดยขอเวลาแค่ 2 วัน เป็นวันนี้กับพรุ่งนี้ ซึ่งตนก็ลงมาตามคำสั่ง ตนอยู่ใน ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง แต่ภรรยาอยู่บนชุมชนบ้านตระ ห่างจากจุดเกิดเหตุที่ปะทะกันประมาณ 4-5 กิโลเมตร ก็เลยได้ขับรถมารับภรรยาลงไปด้านล่าง พร้อมกับนำยางพาราแผ่นลงมาขายด้วย แต่ยังไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางพารา เพราะสวนอยู่ใกล้ป่าใกล้เขา ซึ่งก็ได้เตรียมในส่วนของเรื่องอาหารไว้แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง อยากให้จับตัวเสี่ยแป้งได้โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทลุง เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง เพื่อตรวจค้นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังสืบทราบว่า นายกษิดิ์ชาติ หรือพงษ์ เจ้าของบ้าน ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยแป้ง ได้ให้ความช่วยเหลือเสี่ยแป้ง ในการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจค้น สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี