จ.นครพนม- สส.เดือน มนพร รมช.คมนาคม นำถวายกฐินวัด ”หลวงปู่จันทร์” เถราจารย์ชื่อดัง ศิษย์หลวงปู่เสาร์สายธรรมยุต ยอดทำบุญกว่า 4.9 ล้านบาท

18 พฤศจิกายน 2566 ที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม สส.เดือน - ดร.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์  อดีตรัฐมนตรี และ อดีต ส.ส.นครพนม เป็นประธาน นำเจ้าภาพพลังศรัทธา สายบุญ ร่วมพิธีทอดถวายกฐินสามัคคี ประจำปี 2566 เพื่อสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์ พิพิธภัณฑ์ พระเทพสิทธาจารย์ หรือ หลวงปู่จันทร์ เขมิโย พระเถราจารย์สายธรรมยุตชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเทพประดิษฐาราม โดยท่านละสังขารเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2516  สิริรวมอายุได้ 92 ปี พรรษา 72  นับเวลาถึงปัจจุบันท่านมรณภาพถึง 50 ปีพอดี

ในการทำบุญถวายกฐินสามัคคีครั้งนี้ มีพระศรีวิสุทธินายก เจ้าคณะจังหวัดนครพนม (ธ) เจ้าอาวาสวัดศรีเทพประดิษฐารามรูปปัจจุบัน เป็นประธานสงฆ์นำประกอบพิธี โดยมีพุทธสมาคม จ.นครพนม,มูลนิธิอนุสรณ์หลวงปู่จันทร์,มูลนิธิเทพสิทธาจารย์จันทร์,สมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม,สมาคมไทย-เวียดนาม จ.นครพนม,บริษัท มิตรศิลป์เซ็นเตอร์กรุ๊ป จำกัด,โรงแรมแลนด์มาร์ค,บริษัท ชรินดา ฟูดส์ จำกัด,บริษัท บุตรรดา ฟูดส์ จำกัด,ข้าราชการสังกัดกระทรวงคมนาคม ตลอดจนกรรมการฯ ชาวชุมชนคุ้มวัดศรีเทพ และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้ปัจจัยจากการทำบุญทั้งสิ้น รวม 4,977,476.56 บาท (สี่ล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยเจ็ดสิบหกบาทห้าสิบหกสตางค์) ขณะเดียวกันได้มีพลังศรัทธา นักเสี่ยงโชค นำเลขมงคลจากยอดกฐินไปเสี่ยงโชค ตามความเชื่อความศรัทธา

พระเทพสิทธาจารย์ หรือ หลวงปู่จันทร์ เขมิโย นับเป็นพระสุปฏิปันโนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สายป่าธรรมยุต ลูกศิษย์หลวงปู่เสาร์ กันตะสีโล โดยออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ แสวงหาวิเวกบำเพ็ญภาวนา ข้ามไปยังฝั่งประเทศลาว ธุดงค์กรรมฐานจนถึงเขตประเทศเวียดนาม ผ่านเมืองท่าไฮฟอง เมืองเว้ เมืองไซง่อน โดยเมื่อปี 2449 หลวงปู่จันทร์ได้ปฏิสังขรณ์วัดศรีขุนเมือง ซึ่งเป็นวัดร้างเสนาสนะและพระอุโบสถทรุดโทรม ต่อมา ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดศรีเทพประดิษฐารามในปัจจุบัน  

กระทั่งปี 2516 พระเทพสิทธาจารย์ หรือ หลวงปู่จันทร์ เขมิโย ได้ละสังขาร รวมสิริอายุได้ 92 ปี รวมพรรษา 72 โดยสรีระของท่านได้เก็บรักษาไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาและบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเรื่อยมา จนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2522 จึงได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ในหลวง รัชกาลที่ 9  และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพ ขณะที่ทางฝ่ายคณะคณะสงฆ์ ก็มีสมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระเถรานุเถระและคณาจารย์ทั่วประเทศ ได้ไปร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

ทั้งนี้ ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา หลังหลวงปู่จันทร์ละสังขาร ท่านยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาของลูกหลานชาวนครพนม เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีคุณูปการต่อชาว จ.นครพนม ทุกด้าน อีกทั้งพลังศรัทธา ยังมีความเชื่อว่า เป็นพระเกจิที่มีพุทธคุณเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขาย ร่ำรวย ทำให้มีผู้แสวงหาวัตถุมงคล เพื่อนำไปบูชา อีกทั้งในทุกๆปี มีสายบุญ สายศรัทธา มาร่วมทำบุญไม่ขาดสาย เชื่อว่าจะเกิดอานิสงส์ผลบุญยิ่งใหญ่ มีแต่โชคลาภ เจริญรุ่งเรือง

ในปีนี้ถือว่ามีสายบุญสายศรัทธา มาทำบุญคึกคักมากเป็นพิเศษ เพื่อร่วมสมทบทุน บูรณปฏิสังขรณ์พิพิธภัณฑ์ บูชาคุณ พระเทพสิทธาจารย์ หลวงปู่จันทร์ เขมิโย ให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชา และศึกษาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถ วัดศรีเทพประดิษฐาราม มีพระประธานนามหลวงพ่อพระแสง ศิลปะล้านช้าง สร้างขึ้นราว พ.ศ.2402 ตามตำนานเล่าว่าสร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ในยุคเดียวกับหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย พระเสริม วัดปทุมวนาราม กทม.  และ พระสุก ที่มีเรื่องเล่าต่อๆมาว่าพระสุกท่านจมอยู่ในแม่น้ำโขง เขตพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย  (-009)