นายกฯ เผย หลังจาก ผบ.ตร.เข้าพบแย้มขยายผลการจับกุมหมูเถื่อน ได้เร็วๆ นี้ ลั่นภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างต้องมีความคืบหน้า จับรายใหญ่ก่อน รายเล็กเอาไว้ทีหลังป้องกันการกระทำผิดซ้ำอีก
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่กระทรวงการคลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการแก้ปัญหาหมูเถื่อน ว่าเมื่อช่วงใกล้เที่ยงวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้เข้ามาพบตน พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเข้ามารายงานแล้วว่า มีการขยายผลในการจับกุมหมูเถื่อนได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งต้องตรวจสอบติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งก่อนที่ตนจะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ที่นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีความเป็นห่วง ไม่อยากให้เกิดความล่าช้า ที่กล่าวไว้ก็คือการโยกย้ายถ่ายเทเรื่องเงิน เรื่องการอายัดทรัพย์ เพราะถ้าหากมีทุนทรัพย์ ก็จะไปกระทำความผิดได้อีก เพราะฉะนั้นเรื่องความรวดเร็วในการเข้าไปบริหารจัดการปัญหาที่มีอยู่ไม่ให้คาราคาซัง เราจึงต้องกระตุ้น
“ผมก็ทราบดีว่าเจ้าหน้าที่ก็มีภารกิจมาก แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ” นายกฯ กล่าวและว่า สำหรับกรณีการที่จะขีดเส้นตายให้ระยะเวลาเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการนั้น ก็คงต้องให้เร็วที่สุด โดยสัปดาห์นี้ก็ต้องมีอะไรขึ้นมาบ้าง เพราะถ้าหากนับสัปดาห์นี้ด้วย ก็ 10 วันแล้ว มันก็ต้องมีอะไรบ้าง และเหนือสิ่งอื่นใด ตนคิดว่าจะต้องสาวถึงต้นตอให้ได้ ตัวเล็กๆ เอาไว้ทีหลัง ตัวใหญ่เอามาก่อนดีกว่า จะได้จบสักที ไม่เช่นนั้นพอกวาดล้างได้แป๊บหนึ่ง แต่เดี๋ยว 6 เดือน 12 เดือน ก็เกิดขึ้นมาใหม่
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้ ก็จะมีการพูดคุยกับ รมช.คลัง เกี่ยวกับเรื่องการสนับสนุนผู้ประกอบการเลี้ยงหมูรายเล็กกับรายกลาง ซึ่งประสบปัญหาและหยุดประกอบกิจการไป ในช่วงที่มีหมูเถื่อนเข้ามา เราต้องมาดูว่าจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จะเข้าไปช่วยตรงไหนได้บ้าง มีรายละเอียดอีกเยอะ ซึ่งวันเดียวกันนี้จะมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง
อีกด้านหนึ่ง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศ โดยนำเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี รวม 5 คดี
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ยืนยันว่าทุกคดีมีหลักฐานมากเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐได้ และทั้ง 5 คดีนั้น บุคคลที่ตนร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด จึงแยกเป็นคนละคดี โดยในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ตนและทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะร่วมกันบุกค้นบริษัทที่นำเข้าหมูเถื่อนรายใหญ่ ที่สามารถโยงไปถึงนักการเมืองผู้อยู่เบื้องหลังได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี