รมว.การพัฒนาสังคมฯ จับมือหน่วยงานความมั่นคงกวาดล้างขอทานต่างด้าว โดยแฉพาะชาวจีน ขยายผลเอี่ยวค้ามนุษย์หรือไม่ ชี้ต้องรีบจัดการเพื่อดันไทยกลับขึ้นเทียร์1 ด้าน “กัน จอมพลัง” เผยจับขอทานจีนเพิ่มอีก 1 คน เผยมีข้อร้องเรียนพบขอทานจีนโผล่เมืองใหญ่อย่าง“เชียงใหม่ – ระยอง” ด้วย ด้านตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับมือพม.ลุยตรวจพื้นที่สุขุมวิท คลองเตย นานา รวบ 4 ขอทานชาวเลาว-เขมร สารภาพหนีเข้าไทยมาขอทาน เพราะสบายรายได้ดี
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือหญิงพิการชาวจีนที่ถูกตัดมือ ถูกน้ำกรดราดศีรษะจนเสียโฉม และนั่งขอทานหน้าห้างดังย่านปิ่นเกล้าว่า อาจเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ พม.ประสานทุกหน่วยงานทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทยและตำรวจว่าหากเป็นกรณีคนไทย เรื่องก็ลดความซับซ้อนลง เพราะผิดกฎหมายเรื่องขอทานอยู่แล้ว พม.ดูแลได้ แต่กรณีนี้เป็นชาวต่างชาติจะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น
นายวราวุธกล่าวต่อว่า เบื้องต้นทราบว่า ขอทานรายที่พบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เดินทางเข้ามาด้วยพาสปอร์ตที่หมดอายุ เป็นการเดินทางเข้าประเทศผิดกฎหมายจะมีกฎหมายฉบับอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง การขอทานเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทยทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเมืองผิดกฎหมาย มีกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวข้อง ที่สำคัญเรื่องการค้ามนุษย์ ไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต้องมีการสืบสวนต่อไปว่าแต่ละกรณีที่เจอและมีความใกล้เคียงกัน ต้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการค้ามนุษย์อย่างไรหรือไม่ ทั้งนี้ ถ้าประชาชนพบขอทานที่ใด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเป็นของชาวต่างชาติเข้ามาขอทานในพื้นที่ใด ให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนของ พม. 1300 ซึ่งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ของกระทรวง พม.ขณะนี้มีความพร้อม มีทั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว และเจ้าหน้าที่ในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดการตั้งคำถามว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรณีฟรีวีซ่าให้กับจีนหรือไม่อาจมีช่องโหว่ นายวราวุธกล่าวว่า กรณีแรกที่เราพบเดินทางมาด้วยพาสปอร์ตหมดอายุ จะมีวีซ่าฟรีหรือไม่ก็เข้าประเทศได้ ก็ต้องสืบสวนว่าเข้าเมืองมาได้อย่างไร ส่วนกรณีการเข้าเมืองด้วยวีซ่าฟรีเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ ตม.มีวิจารณญาณพอ ถ้าเจอคนต้องสงสัยเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรคงตั้งคำถามก่อน จึงไม่น่าจะเกี่ยวกัน
นายวราวุธกล่าวต่อว่า ขณะนี้ไทยอยู่ในขั้นตอนรวบรวมทำรายงาน Tip Report หรือการส่งรายงานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ให้หน่วยงานต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง คาดว่าเสร็จปลายปีนี้ และภายในเดือนมกราคม 2567 จะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ในรายงานดังกล่าวประกอบด้วย 3 ส่วนคือ การดำเนินคดี สอง การป้องกันและสร้างการรับรู้ สาม การเยียวยาและดูแล ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเต็มที่ทุกปี ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ระดับเทียร์ 2 เป็นระดับปานกลาง และรัฐบาลที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ ที่จะทำให้ไทยอยู่ในเทียร์ 2 ซึ่งวันนี้ทำได้แล้ว และต้องทำให้การเลื่อนสถานะกลับไปเทียร์ 1 เป็นโมเดล ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ทั้งเรื่องขอทานและอีกหลายกิจการ เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยกลับสู่เทียร์ 1
ด้านน.ส.นภาพร เมฆาผ่องอำไพ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมฯกล่าวว่า ตามขั้นตอนกฎหมาย บุคคลเหล่านี้มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 หลังดำเนินคดีต้องผลักดันกลับประเทศต้นทาง แต่การขึ้นบัญชีดำไว้เพื่อป้องกันเดินทางกลับมาขอทานในไทยซ้ำอีก คงต้องเป็นหน้าที่ตำรวจในหน่วยที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ พม.พิจารณาข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.การเรี่ยไร และ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน ว่า สมควรปรับแก้ไขให้ทันยุคสมัยปัจจุบันหรือไม่อย่างไร
ความคืบหน้ากรณีพบผู้พิการชาวจีนมาขอทานตามหน้าห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยถึงการติดตามตัวขอทานชาวจีนในพื้นที่กทม.ว่า ตำรวจติดตามตัวได้ 6 คน เหลืออีก 3 คน กำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ทั้งนี้ จากเบาะแสที่รับแจ้งจากแฟนเพจ พบว่า ไม่ได้มีแค่ในพื้นที่กทม. แต่พบเห็นชาวจีนนั่งขอทานในจ.เชียงใหม่ และ จ.ระยองด้วย เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนรับเป็นเจ้าภาพจัดการปัญหา
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 โดยกองกำกับการสืบสวน ได้รับเรื่องร้องเรียนและเบาะแส ทั้งช่องทางสายด่วน 1178 และโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการลักลอบเข้ามาขอทานของบุคคลต่างด้าวในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะย่านธุรกิจกลางกรุงเทพฯ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน จึงสั่งการให้พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวนฯ นำกำลัง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมฯและสน.ลุมพินี ลงพื้นที่ตรวจสอบตลอดถ.สุขุมวิท และพื้นที่ใกล้เคียง พบว่าริมถนนสุขุมวิท ช่วงสถานีรถไฟฟ้านานา เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มีบุคคลต้องสงสัยคล้ายคนต่างด้าวหลายรายนั่งอยู่บริเวณดังกล่าว และมีพฤติกรรมลักษณะขอทาน บางกลุ่มมีการนำเด็กมาร่วมขอทานด้วย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจสอบเอกสาร ประจำตัว แต่บุคคลกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทางหรือเอกสารยืนยันตัวตนได้
ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนลาว 2 ราย และกัมพูชา 2 รายมาสอบสวน ซึ่งทั้งหมดสารภาพว่าลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อมาขอทาน เนื่องจากเห็นว่าสบายและรายได้พอเพียงใช้ชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงยังไม่ปักใจเชื่อ ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลถึงขบวนการนำพาคนต่างด้าวมาขอทาน โดยแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลต่างด้าว 4 ราย เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าและนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี