อ่างเก็บน้ำหนองญาติ มีเนื้อที่ 3,284 ไร่ 1 งาน 11 ตารางวาตั้งอยู่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ โดยมีแหล่งรวมประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้แก่หอเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรีในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ภายในหอฯ จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรีโดยมีนิทรรศการพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์สีน้ำมันของพระมหากษัตริย์ 10 รัชกาล พร้อมด้วยพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ นิทรรศการเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของ 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติในจังหวัดนครพนม นิทรรศการพระธาตุประจำวันเกิด รวมถึงนิทรรศการปีติสุข เสด็จพระราชดำเนินเยือนนครพนม ซึ่งรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์ ขณะรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดนครพนม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ

ล่าสุด บริเวณอ่างเก็บน้ำฯ โซนด้านถนนโยธาธิการ ฝั่งบ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ ได้เกิดจุดเช็คอินแห่งใหม่ที่น่าสนใจ คือจุดชมควายไทยจำนวนกว่า 100 ตัวลงลอยคอว่ายน้ำข้ามไปหากินที่เกาะกลางหนองญาติ ถือเป็นภาพที่หาดูยากในปัจจุบัน จึงมีชื่อเรียกสั้นๆ ว่าฝูงควายน้ำ ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำหนองญาติเป็นแหล่งน้ำสำคัญ มีน้ำขังตลอดทั้งปี ชาวบ้านรอบๆ อ่าง เช่น บ้านหนองญาติ หมู่ 2 บ้านนาจอก หมู่ 5 และ บ้านดงโชค หมู่ 1 ต.หนองญาติ จึงได้ประโยชน์ ในการทำเกษตรปลูกผักสวนครัว ประมง ตลอดจนเป็นสถานที่พักผ่อน และ แหล่งท่องเที่ยว รวมไปถึงคู่บ่าวสาว นิยมใช้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ถ่ายเวดดิ้ง เนื่องจากยามตะวันตกดินแสงแดดจะสาดกระทบผืนน้ำสวยงามมาก

โดยชาวบ้านดงโชค มีจำนวนประชากรประมาณ 537 คน 264ครัวเรือน นอกจากจะทำนาเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังได้เลี้ยงควายเป็นสัตว์เศรษฐกิจด้วย จากข้อมูลทราบว่าเป็นอาชีพที่สืบต่อกันมา แต่ละบ้านจะเลี้ยงควายครอบครัวละ 5-30 ตัว เนื่องจากมีชัยภูมิที่เหมาะ รวมทั้งมีแหล่งอาหารสมบูรณ์คืออ่างเก็บน้ำหนองญาติ

ทราบจาก นายไสว ผูนา อายุ64 ปี ชาวบ้านดงโชค หมู่ 1 เปิดเผยว่า ประกอบอาชีพเลี้ยงควายไทยมาเกือบ 20 ปี ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญ เช่น ในยามคับขันเงินขาดมือก็ขายออกไป นำเงินมาหมุนเวียนใช้จ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันมีควายอยู่ 15 ตัว วัวอีก 7 ตัว ราคาควายตกตัวละ 20,000 บาท โดยราคาขึ้นลงอยู่ที่ตัวควายเอง เช่นเดียวกับนางตึ๋ง ลำไพ อายุ 57 ปี ก็เปิดเผยไปในทิศทางเดียวกับนายไสว ที่เลี้ยงควายเป็นอาชีพเสริม ขัดสนสามารถขายได้ทันที เพราะมีตลาดรองรับแน่นอน

ขณะที่นายชัย อุปลีพันธ์ อายุ 43 ปี มีควายอยู่ราว 15 ตัว เหตุที่เรียกควายน้ำเพราะหัดให้ลงเล่นน้ำ ตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ ควายพวกนี้จึงไม่กลัวน้ำ ต่างจากควายที่อื่นหรือเรียกว่าควายบก หากไม่ฝึกให้ลงน้ำไล่อย่างไรก็ไม่ลง อีกอย่างพวกควายน้ำจะไม่กลัวปลิง อาหารตระกูลหญ้าที่อยู่ใต้น้ำ ฝูงควายน้ำสามารถดำลงไปเอาขึ้นมากินได้อย่างสบาย และนายชัยได้เล่าต่ออีกว่า เมื่อก่อนชาวบ้านก็เลี้ยงวัวร่วมด้วย แต่ปัจจุบันคนนิยมบริโภคเนื้อควายมากกว่า จึงหันมาเลี้ยงควายเพียงอย่างเดียว และเป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ อีกอย่างเป็นการลงทุนที่ต่ำ เพราะมีแหล่งอาหารอยู่ในอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก

และทำไมถึงกลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ เนื่องจากในตอนเช้าของทุกๆวัน เวลาตั้งแต่ 08.00-09.30 น. ชาวบ้านจะพร้อมใจกันต้อนควายออกจากคอก มุ่งสู่อ่างเก็บน้ำหนองญาติ เหมือนนัดกันไว้ว่าจะมาบรรจบพบกัน ณ ริมอ่างควายทุกตัวต่างเดินลงน้ำว่ายไปยังดอนที่เป็นเกาะกลางอ่างเก็บน้ำ ภาพที่ควายว่ายน้ำจำนวนกว่า 20 ตัวเป็นอย่างน้อย ถือเป็นภาพที่หาดูได้ยากในพื้นที่อื่น ทั้งนี้ ดอนเกาะกลางอ่างเก็บน้ำหนองญาติ มีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่ ตอนเที่ยงเจ้าของก็จะข้ามไปดู ว่า ควายของตนเข้าไปล้ำเขตของผู้อื่น หรือไปเหยียบทำลายพืชการเกษตรของใครหรือไม่ ถึงเวลาไม่เกิน 16.00 น. ฝูงควายจะพากันว่ายข้ามกลับมายังจุดที่เดินลงไปในตอนเช้า โดยไม่มีใครไปไล่ต้อนแต่อย่างใด

นอกจากนี้ บริเวณจุดที่ฝูงควายน้ำลงนั้น มีเกาะขนาดเล็กคล้ายภาพวาดในการ์ตูนขายหัวเราะ ต่างกันตรงที่ในภาพวาดเป็นต้นมะพร้าว แต่ที่ตรงนี้เป็นต้นไม้พุ่มสวยงาม ห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร มีชื่อป้ายภาษาอังกฤษ HELP (ช่วย) ทำให้เกิดจินตนาการอยากชวนสาวคนรักไปติดเกาะแห่งนี้ บริเวณดังกล่าวจึงกลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ ที่ใครผ่านไปมาต้องแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสมอโดยพื้นที่อ่างเก็บน้ำหนองญาติอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลหนองญาติ ที่สำคัญอ่างเก็บน้ำหนองญาติ มีประวัติศาสตร์ที่เป็นสิ่งภาคภูมิใจและเป็นสิริมงคลแก่ปวงชนชาวจังหวัดนครพนมยิ่งนัก กล่าวคือเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน2505 หรือ 61 ปีที่ผ่านมา  พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมบำรุงขวัญทหารตำรวจตระเวนชายแดน ณ จังหวัดนครพนม ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างโลกค่ายเสรีประชาธิปไตยกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น หลังจากทรงงานเสร็จทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จประทับแรมในกระโจมที่กองบัญชาการทหารสูงสุดจัดถวาย ณ พื้นที่ทรงงานริมอ่างเก็บน้ำหนองญาติ

พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล