ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งปลอมเป็นตำรวจ“สภ.แหลมฉบัง” หลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 3 แสน หมายจับติดตัวเพียบ!!
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 พ.ค.65 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง แจ้งว่าผู้เสียหายมีชื่อเป็นผู้ส่งพัสดุไปยัง จ.เชียงราย โดยอ้างว่าข้างในพัสดุประกอบด้วยหนังสือเดินทางของชาวพม่า จำนวน 12 เล่ม , บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ , สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้เสียหาย จำนวน 3 เล่ม และสมุดบัญชีเงินฝากของผู้อื่นจำนวน 6 เล่ม ถูกอายัดไว้ที่ศุลกากรแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งผิดกฎหมายและจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
หลังจากนั้นได้ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อว่า “สภ.แหลมฉบัง” โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ.ประจำ สภ.แหลมฉบัง จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายพูดคุยวีดีโอคอลทางไลน์กับชายอีกคนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.แหลมฉบัง แล้วส่งรูปภาพถ่ายของชายวัยกลางคน ว่ามีคดีข้อหาคดีฟอกเงินและค้ายาเสพติด โดยคนร้ายอ้างว่าผู้เสียหายมีเงินหมุนเวียนอยู่ในบัญชี 3 บัญชี และแจ้งว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ให้โอนเงินในบัญชีทั้งหมดของผู้เสียมายังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี “น.ส.สุพัตรา” ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ เมื่อทำการตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะทำการโอนคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ดำเนินการโอนเงินไปยังหมายเลขบัญชีดังกล่าวเป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับไลน์ชื่อว่า “สภ.แหลมฉบัง” ได้อีกเลย จึงคิดว่าถูกพวกมิจฉาชีพหลอกแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวทั้งหมด 3 หมาย ได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านเช่าในจังหวัดราชบุรี จึงได้เข้าไปตรวจสอบและจับกุม น.ส.สุพัตรา อายุ 22 ปี ชาว จ.ราชบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้บริเวณ ถนนสาธารณะหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่า ตนเองคือบุคคลตามหมายจับนี้จริง แต่ตนเองไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าปีที่แล้วเมื่อแม่ของตนเองป่วยต้องการถังออกซิเจน และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) รับว่าจะช่วยเป็นธุระจัดหาถังออกซิเจนให้ แต่ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยไปแสดงเป็นหลักฐานในการของยืมถังออกซิเจนจากโรงพยาบาล เนื่องจากช่วงนั้นแม่ของตนเองป่วยหนักตนเองจึงตัดสินใจนำบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองและของแม่ไปให้แก่ น.ส.เอ ไปดำเนินการให้ แต่ที่ตนเองจำได้ก็มีแค่เหตุการณ์เหตุการเดียวที่ตนเองนำบัตรไปให้แก่บุคคลอื่น และตนเองก็ไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารให้แก่ผู้อื่นเลย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. , พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 , พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 หัวหน้าชุด พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี