เครือข่ายวิจัยภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมข. ร่วมกับสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดตั้ง “ศูนย์วิจัยชุมชนการบริบาลและดูแลผู้สูงอายุ ต.บ้านค้อ” และจัดพิธีเปิดศูนย์วิจัยชุมชนฯ ณ ห้องประชุมเทศบาลบ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ไชยณรงค์ นาวานุเคราะห์ รองประธานเครือข่ายวิจัยภูมิภาคฯ กล่าวรายงาน โครงการ โดยมี ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มข. เป็นประธานเปิดศูนย์วิจัยชุมชนฯ มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ และมอบป้ายศูนย์วิจัยชุมชน มีนายจักรพงศ์ เพ็ชรแสน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ นายพิตรพิบูล ธนาพรกนกรัตน์ ปลัดเทศบาลตําบลบ้านค้อ คณะกรรมการศูนย์วิจัยชุมชนฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านค้อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้เข้าอบรม
ศ.ดร.ไชยณรงค์ นาวานุเคราะห์ รองประธานเครือข่ายวิจัยภูมิภาคฯ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวรายงานว่า จากการที่สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับเครือข่ายวิจัยภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มข. ดําเนินการจัดกิจกรรมขับเคลื่อนให้เกิดการเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อรองรับปัญหาของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง รวมถึงดําเนินการจัดกิจกรรมจัดตั้งศูนย์วิจัยชุมชน 1 ศูนย์ คือ “ศูนย์วิจัยชุมชนการบริบาลและดูแลผู้สูงอายุ ต.บ้านค้อ” ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากคณะพยาบาลศาสตร์ มข. เทศบาล ต.บ้านค้อและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านค้อและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านซำจาน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและผู้นำชุมชน ในการพัฒนาศูนย์วิจัยชุมชนตำบลบ้านค้อกลยุทธ์ที่สำคัญคือการพัฒนาความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสังคมในการทำงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนอย่างมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้สูงอายุในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดำรงชีวิตอยู่กับลูกหลานได้อย่างมีความสุข
ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มข. กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมยินดีในการเปิด “ศูนย์วิจัยชุมชนการบริบาลและดูแลผู้สูงอายุ ต.บ้านค้อ” และผู้ที่ผ่านการอบรม ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) ครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหาวิธีการทำงานแบบใหม่ รวมถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน ให้ได้ผลที่ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์วิจัยชุมชน ต.บ้านค้อ นับเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่สำคัญยิ่ง ที่จะเป็นกลไกนำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาการดูแลผู้สูงอายุ และการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนอย่างยั่งยืน ที่สำคัญ ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม โครงการอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver CG) หลักสูตร 70 ชั่วโมง ประจำปี 2566 นั้น ได้รับความรู้และการปฏิบัติตามหลักวิชาการที่ถูกต้องตามมาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ที่มีศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ ส่งผลให้ผู้สูงอายุในชุมชน สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ในอนาคต
ศ.ดร.ไชยณรงค์กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 28 ในปี 2574 ทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” และจะเป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” ในปี 2574 ส่งผลกระทบทั้งต่อตัวผู้สูงอายุ ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ เครือข่ายวิจัยภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้ร่วมกับสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดตั้ง “ศูนย์วิจัยชุมชนการบริบาลและดูแลผู้สูงอายุ ต.บ้านค้อ” ขึ้น เพื่อดําเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ในการขับเคลื่อนให้เกิดการเผยแพร่องค์ความรู้ มีการรองรับปัญหาของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ซึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญคือการพัฒนาความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทางสังคมในการทำงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน อย่างมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะขยายไปสู่กลุ่มอื่นๆ อีกต่อไปในอนาคต เพื่อนำไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580)
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี